พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ประกาศความพร้อมส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครบทั้ง 33 เขต ในกรุงเทพมหานคร พร้อมขอแรงสนับสนุนจากประชาชนให้เลือกพรรคเศรษฐกิจยกทีมทั้ง 33 เขต เพื่อผลักดันนโยบายแก้ปัญหาประเทศอย่างจริงจัง
พล.อ.รังษี กล่าวว่า พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัครครบทุกเขตทั่วประเทศ เนื่องจากคัดเลือกเฉพาะผู้สมัครที่มีคุณภาพ ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งจะกลายเป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน พร้อมย้ำว่า พรรคเศรษฐกิจต้องการเสียงข้างมากในสภา เพราะประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตหนี้ 3 ก้อน ได้แก่ หนี้ประชาชน หนี้รัฐบาล และหนี้ภาคธุรกิจ รวมมูลค่ากว่า 55 ล้านล้านบาท หรือราว 3.5 เท่าของ GDP และสูงถึง 17 เท่าของงบประมาณแผ่นดิน หากไม่ได้เสียงข้างมากจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ พรรคเศรษฐกิจ มีทั้งนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค โดยมี 2 โครงการหลัก คือ รถไฟความเร็วสูง และโครงการโอเชียนลิงก์ เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้รายได้ต่อหัวประชาชนเพิ่มขึ้น 3 เท่า และทำให้ GDP เติบโตขึ้น 3 เท่า
สำหรับปัญหาคอร์รัปชัน พล.อ.รังษี มองว่าเป็นปัญหาใหญ่ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติ และไม่สามารถปล่อยให้ประเทศเป็นเช่นนี้ต่อไปได้ พรรคเศรษฐกิจเสนอแก้กฎหมายให้มีโทษประหารชีวิตผู้กระทำผิดคอร์รัปชัน ทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยโทษจำคุกจะไม่มีการลดโทษ แต่เปิดช่องให้อุทธรณ์ภายใน 1 ปี หากไม่สามารถหาหลักฐานหักล้างคำพิพากษาศาลฎีกาได้ ให้เป็นไปตามกระบวนการ
พล.อ.รังษี ยังกล่าวอย่างดุเดือดว่า จะไม่เกรงใจหรือเกรงกลัวผู้โกงชาติ พร้อมย้ำว่า ประชาชนกว่า 68 ล้านคนกำลังเดือดร้อน ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ตำรวจถึงราชทัณฑ์ หลังสร้างความเสียหายและความอับอายให้ประเทศ พร้อมย้ำว่าไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้ลอยนวลได้
พล.อ.รังษี กล่าวเพิ่มเติมว่า "พรรคเศรษฐกิจกราบขอประชาชน หากอยากพ้นจากความโสมมทั้งหลาย เลือกพรรคเศรษฐกิจแลนด์สไลด์พรรคเดียวไปเลย ถ้าทำไม่ได้ ผมลาออกทันที" พร้อมยืนยันไม่ประนีประนอมกับความชั่ว
ขณะเดียวกัน ย้ำชัดว่าจะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ โดยระบุว่า หากจับมือก็เท่ากับยอมรับพฤติกรรมดังกล่าว พร้อมย้ำว่าตนมีประสบการณ์ด้านข่าวกรอง สามารถตรวจสอบข้อมูลในระดับสากลได้
พล.อ.รังษี ทิ้งท้ายว่า หากพรรคเศรษฐกิจได้เสียงข้างมาก ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือภูมิภาคใด จะเร่งลงนาม MOU กับจีนภายใน 1 เดือน ทั้งด้านคมนาคม การท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาโดยเร็ว


