นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค วาระสำคัญเป็นการขอมติจากที่ประชุม เพื่อจัดลำดับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คาดว่าลำดับ 1 คือ นายอภิสิทธิ์ ลำดับ 2 น.ส. การดี (กาน-ดี) เลียวไพโรจน์ ลำดับ 3 นายกรณ์ จาติกวานิช
นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้เลขาธิการพรรคดำเนินการคัดสรร และจัดส่งให้ กรรมการบริหารพรรคพิจารณาทางออนไลน์ คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ และจะสามารถเปิดตัวแคนดิเดตทั้ง 3 คนได้ ในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ ส่วนนโยบายพรรคทั้งหมดจะเปิดอย่างทางการอีกครั้งหลังวันรับสมัคร สส.
นอกจากนี้ ที่ประชุมกรรมการบริการพรรคฯ ยังได้มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีที่พรรคได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน หากพบว่ามีผู้สมัครของพรรคกระทำการผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การซื้อเสียง หรือพฤติกรรมอื่นๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ทุกช่องทางการสื่อของพรรคฯ และตรวจสอบพบว่ามีความจริง พรรคจะยุติและไม่สนับสนุนผู้สมัครคนดังกล่าวอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน กรรมการบริหารพรรคฯ ยังมีมติรับรองเจตนารมณ์ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ให้เป็นจุดยืนของพรรค รวมถึงมีมติรับรองให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคจนครบวาระ 4 ปี เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ มีเจตนารมณ์ต้องการฟื้นฟูพรรค ซึ่งต้องใช้เวลาและหลักการ ดังนั้น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง อยู่จนครบวาระเพื่อดำเนินการตามสัจจะที่ได้มอบไว้กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้
เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม แสดงว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ใช่หรือไม่ เพราะพรรคกล้าธรรมจะร่วมรัฐบาลกับทุกพรรค นายพงศกร ย้อนสมัยที่พรรคประชาชนเป็นพรรคก้าวไกล ผลสำรวจความเห็นประชาชน อยู่ที่ ประมาณ 15% วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ประมาณ 10 % แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลได้รับความนิยมถึง 45% ดังนั้น มองว่าทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญ พรรคฯ ต้องการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ฟังแล้วอาจเป็นไปได้ยาก แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ และเคยเป็นมาแล้ว ดังนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำตั้งรับบาล จะไม่มีพรรคกล้าธรรม
ส่วนการที่พรรคฯ ส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต นายพงศกร ระบุว่า อาจส่งไม่ครบ แต่ก็ให้ได้มากที่สุด และเมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะดึงคะแนนจาก 42% ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด มาได้หรือไม่ นายพงศกร ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอโอกาส ให้การเมืองสุจริตเป็นทางเลือก


