นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ผู้ที่ครอบครองไลเกอร์ หรือไทกอน จะต้องมาแจ้งการครอบครองตามที่กฎหมายกำหนด ที่ผ่านมา ไลเกอร์ และ ไทกอน ซึ่งเป็นสัตว์ลูกผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสิงโตและเสือโคร่งทั้ง 2 ชนิดนี้ ยังไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าต่างประเทศที่ต้องแจ้งการครอบครอง ส่งผลให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครองได้โดยไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่ชัดเจน ก่อให้เกิดช่องว่างทางกฎหมาย ทั้งในด้านการเลี้ยงดู ความปลอดภัย และการตรวจสอบที่มาของสัตว์
สัตว์ลูกผสมดังกล่าว โดยเฉพาะไลเกอร์ มักมีขนาดตัวใหญ่และอาจประสบปัญหาสุขภาพจากความผิดปกติทางพันธุกรรม การกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าควบคุม จะทำให้ภาครัฐสามารถตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่เลี้ยง มาตรฐานความปลอดภัย และการดูแลด้านสวัสดิภาพสัตว์ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงและประชาชนโดยรอบ
นอกจากนี้ การกำหนดให้ต้องแจ้งการครอบครอง ยังเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการแอบอ้างสวมสิทธิ์ โดยที่ผ่านมาอาจมีการนำลูกเสือโคร่ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมายและอยู่ภายใต้อนุสัญญาไซเตส มาแอบอ้างว่าเป็นไลเกอร์หรือไทกอน เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย การขึ้นทะเบียนจะช่วยให้สามารถตรวจสอบที่มาและสถานะของสัตว์ได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงออกประกาศกระทรวงฯ กำหนดให้ "ไลเกอร์" (Liger) และ "ไทกอน" (Tigon) เป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน คือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2569 โดยผู้ที่ครอบครองไลเกอร์หรือไทกอนอยู่ก่อนวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ จะต้องแจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 90 วัน หรือระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2569 เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


