นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ช่วงรัฐบาลรักษาการ นโยบายที่อนุมัติแล้วยังเดินหน้าต่อได้ ทั้งมาตรการแก้หนี้เฟสแรกและช่วยเหลือเอสเอ็มอี แต่ยอมรับว่านโยบายใหม่บางโครงการต้องชะลอ โดยเฉพาะโครงการ "คนละครึ่ง พลัส เฟส 2" และโครงการกระตุ้นการออมผ่านบัญชี TISA ซึ่งต้องรอความชัดเจนจาก กกต. ขณะนี้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างหารือ กกต. ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่
อย่างไรก็ดี นายเอกนิติ ย้ำเศรษฐกิจไทยไม่สะดุด โดยไตรมาส 4 ได้แรงหนุนจาก 5 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ การบริโภคในประเทศจากโครงการคนละครึ่งพลัส วงเงินกว่า 70,000 ล้านบาท การแก้หนี้ครัวเรือนเฟสแรกช่วยประชาชนกว่า 2 ล้านคน มาตรการช่วยเอสเอ็มอีวงเงินรวมราว 320,000 ล้านบาท และซอฟต์โลนผ่าน บสย. อีกประมาณ 267,000 ล้านบาท ซึ่งจะต่อเนื่องถึงปีหน้า
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เร่งลงทุนเพื่ออนาคต ผ่านโครงการ Fast Pass ปลดล็อกการลงทุน อนุมัติโครงการพร้อมลงทุนเดิมมูลค่า 470,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ก่อนยุบสภา คาดช่วยหนุน GDP ไตรมาส 4 โตเกิน 1% และทั้งปี 2568 ขยายตัวเกิน 2% อย่างแน่นอน


