พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค แถลงจุดยืนหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา พร้อมยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อ “นำความหวังและโอกาสที่ดีกลับคืนสู่ประชาชน”
ชี้การยุบสภาคือการหนีตรวจสอบ ท่ามกลางภาวะล้มเหลวรอบด้าน
นายจุลพันธ์ อ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การยุบสภาของรัฐบาลครั้งนี้คือ “การหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและความรับผิดชอบ” ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดและไร้ประสิทธิภาพ ทั้งในประเด็น ความขัดแย้งชายแดน ที่ยังแก้ไขไม่ได้อย่างยั่งยืน การโยกย้ายข้าราชการและใช้งบประมาณเอื้อประโยชน์กลุ่มคนบางกลุ่ม ความน่าเชื่อถือของประเทศที่ตกต่ำในสายตานานาชาติ ประชาชนเดือดร้อนจากอุทกภัย เสียชีวิตและสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมา กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน คดีสำคัญไม่เดินหน้าอย่างโปร่งใส
วิจารณ์การแก้รัฐธรรมนูญไร้ความจริงใจ–สัญญา MOA ไม่เป็นประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทยระบุว่า รัฐบาลไม่เคยมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น เพราะสัญญา MOA ที่จัดทำขึ้นไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักประชาธิปไตย และตั้งแต่แรก ความพยายามของพรรคเพื่อไทยที่จะสร้างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงประชาชนก็ถูกปัดตกทันที
แถลงการณ์ยังชี้ว่า ประเทศไม่ได้ประโยชน์ใดจากกระบวนการนี้ กลับกลายเป็นการเปิดช่องให้พรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจ ทรัพยากร และเครือข่ายของรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์และสะสมอำนาจเพิ่มขึ้น
ชี้พรรคประชาชนผิดคำสัญญา-กลับหนุนยุบสภา เปิดทางรัฐบาลหนีการตรวจสอบ
พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พรรคประชาชน เคยมาเจรจาขอให้เพื่อไทยชะลอการยื่นอภิปราย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมกันตรวจสอบรัฐบาล หากการแก้รัฐธรรมนูญไม่สามารถดำเนินต่อได้
แต่ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อคืน พรรคประชาชนกลับเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ซึ่งเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารใช้ช่องทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า คู่สัญญาใน MOA ต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวนี้ร่วมกัน ยันเพื่อไทยพร้อมเลือกตั้ง ชูแคมเปญ “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้”
แม้เสียดายโอกาสของประเทศที่สูญเสียไปเพราะการเมืองไร้เสถียรภาพ พรรคเพื่อไทยย้ำว่า ประชาชนต้องไม่สิ้นหวัง โดยพรรคมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและวางรากฐานใหม่ให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างแท้จริง
พรรคประกาศว่า ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ จะมีการเปิดตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” ซึ่งจะนำเสนอนโยบายด้าน เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิต โดยยึดหลักคิด วิทยาศาสตร์-ข้อมูลจริง-ความเป็นไปได้ทางปฏิบัติ
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะทำการส่งผู้สมัครรองรับเลือกตั้งครบทั้งหมด 400 เขต และขณะนี้พรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้ง และจะดำเนินการในการนำผู้สมัครไปสู่กระบวนการเลือกตั้ง ไม่ว่ากกต. จะประกาศวันเลือกตั้งเป็นวันใดก็ตาม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ใช่ศาสตราจารย์ยศชนันท์ วงศ์สวัสดิ์ และจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่
นายจุลพันธ์ ระบุว่า ให้รอดูในวันที่ 16 ธ.ค. เพราะเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น ในส่วนของตนนั้นต้องขอบคุณทางผู้สื่อข่าวที่ให้ความสนใจ ส่วนในเรื่องของการตัดสินใจนั้น ในวันที่ 15 ธ.ค. จะมีการนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการ ฉะนั้นในวันที่ 16 นี้จะได้ทราบพร้อมกัน
“เรื่องแคนดิเดตเราไม่ได้มีข้อจำกัดใดๆ แต่เราก็จะต้องคัดเลือกบุคคลที่มีอุดมการณ์ มีแนวความคิดที่ตรงกันกับพรรค และเป็นที่รู้จักของสังคม สามารถผลักดันให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าสู่การเลือกตั้งอย่างแข็งแรง” จุลพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ กล่าวย้ำว่า ในวันเปิดตัวแคนดิเดตฯ จะมีการนำเสนอนโยบายชุดแรก ที่แสดงให้เห็นว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะให้อะไรกับพี่น้องประชาชน


