นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ซึ่งทางสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่เกิดการเผชิญหน้าหรือมีความเสี่ยงปะทะเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้าและมีความเปราะบางสูง
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ที่ตึงเครียดต่อเนื่องมีแนวโน้มส่งผลกระทบโดยตรง กับความมั่นคงของเส้นทางการค้าชายแดน ต้นทุนด้านโลจิสติกส์และเวลาขนส่ง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้ส่งออก และผู้บริโภค โดยอาจจะซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลออยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ปกติควรเป็นฤดูกาลที่กิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว
ขณะเดียวผกัน ลกระทบจริงที่เกิดขึ้นต่อผู้ส่งออกไทย ปัจจุบันผู้ส่งออกจำนวนมากได้ หยุดการขนส่งผ่านด่านชายแดน และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเรือ (sea freight) และการลากตู้ทางบกในระยะทางที่ไกลขึ้น (inland haulage)
ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความล่าช้า ซึ่งการเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าวทำให้ ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ระยะเวลาขนส่งยาวขึ้น และกระทบต่อความสามารถแข่งขันของผู้ส่งออกไทย โดยผลกระทบดังกล่าวรุนแรงเป็นพิเศษสำหรับ SMEs ที่มีความอ่อนไหวต่อต้นทุนและสภาพคล่อง
อีกทั้งในช่วงปีใหม่ หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียดหรือเกิดเหตุปะทะเพิ่มเติม อาจส่งผลต่อความรู้สึกปลอดภัยของประชาชน การเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลอาจทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจช่วงปีใหม่อ่อนแรงกว่าที่ควรจะเป็นแต่หากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ดี ใช้การทูตเชิงรุก และสื่อสารอย่างต่อเนื่องผลกระทบดังกล่าวจะลดลงและจำกัดอยู่ในบางพื้นที่เท่านั้น
อย่างไรก็ดี สรท.อย่างเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ดังนี้
1. ใช้สันติวิธีและการทูตเป็นกลไกหลัก เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม ซึ่งจะช่วยรักษาความเชื่อมั่นจากคู่ค้าต่างประเทศและปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศไทย
2. บริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัย พร้อมดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพเส้นทางโลจิสติกส์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของด่านทางเลือกหรือเส้นทางขนส่งสำรอง เพื่อไม่ให้ระบบส่งออกหยุดชะงัก
3.สื่อสารข้อมูลอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง เพื่อลดความกังวลของประชาชน นักท่องเที่ยว และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งบรรยากาศด้านความเชื่อมั่นมีผลโดยตรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
4. พิจารณามาตรการบรรเทาต้นทุนโลจิสติกส์เร่งด่วน เช่น มาตรการลดค่าใช้จ่ายท่าเรือ การอำนวยความสะดวกพิธีการศุลกากร สิทธิประโยชน์ภาษีชั่วคราว เพื่อช่วยผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


