วันนี้ (11 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการทางวิชาการด้านการงบประมาณ OECD Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดโดยสำนักงบประมาณร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายริชาร์ด วินเดเยอร์ (Mr. Richard Windeyer) รองปลัดกระทรวงการคลัง เครือรัฐออสเตรเลีย เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกคนในโอกาสการประชุม Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 พร้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม OECD ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2545 เวทีนี้ได้สะท้อนถึงความร่วมมืออันยืนยาวระหว่างไทยกับ OECD และได้พัฒนาขึ้นเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างธรรมาภิบาลทางการคลัง และยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การประชุมในปีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และความคาดหวังที่สูงขึ้นของประชาชนในเรื่องความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ซึ่งในสภาพแวดล้อมดังกล่าว การจัดทำงบประมาณอย่างรอบคอบและการบริหารการคลังอย่างรับผิดชอบ ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจเชิงเทคนิค แต่เป็นรากฐานของความเชื่อมั่นระหว่างรัฐบาลและประชาชน โดยไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาความเชื่อมั่นนี้ไว้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกคนในโอกาสการประชุม Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 พร้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม OECD ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2545 เวทีนี้ได้สะท้อนถึงความร่วมมืออันยืนยาวระหว่างไทยกับ OECD และได้พัฒนาขึ้นเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างธรรมาภิบาลทางการคลัง และยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การประชุมในปีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และความคาดหวังที่สูงขึ้นของประชาชนในเรื่องความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ซึ่งในสภาพแวดล้อมดังกล่าว การจัดทำงบประมาณอย่างรอบคอบและการบริหารการคลังอย่างรับผิดชอบ ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจเชิงเทคนิค แต่เป็นรากฐานของความเชื่อมั่นระหว่างรัฐบาลและประชาชน โดยไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาความเชื่อมั่นนี้ไว้


