นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นว่า กรณีที่โซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพบุคคลต่างๆ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน รวมทั้งนักธุรกิจพลังงานชื่อดัง ถ่ายภาพมากมายหลายกิจกรรมร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน รวมทั้ง ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติหรือไม่นั้น จะเป็นการคบหาสมาคมกับบุคคลต้องสงสัยของ ปปง. และหน่วยงานรัฐในกระบวนการยุติธรรมอันถือได้ว่าขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
สืบเนื่องมาจากการที่โลกออนไลน์เผยแพร่ภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปรากฏภาพร่วมเฟรมกับ นายเบน สมิธ ขณะรับประทานอาหาร พูดคุย ดื่มไวน์ บนโต๊ะเดียวกัน อีกทั้งยังมีภาพของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ร่วมเฟรมพูดคุยกับนายเบน สมิธ ด้วย และยังมีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับสูงหลายคน บางคนเป็นนายทุนพรรคการเมืองใหม่ อดีตปลัดกระทรวงฯ รวมทั้งมีนักธุรกิจพลังงานระดับต้นๆ ของเมืองไทย อยู่ในเฟรมภาพต่างๆ หลายๆ ภาพ หลายๆ อิริยาบถ
แม้นายอนุทิน และนายเอกนิติ จะออกมาปฏิเสธว่าเป็นภาพเก่าที่อาจถ่ายเมื่อหลังรัฐประหาร ปี 2557 ขณะที่มีการเดินทางไปสิงคโปร์ แล้วก็ไปเจอกับคณะของข้าราชการระดับสูงหลายท่าน โดยมีการเจอกับนายเบน สมิธ ด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ได้คบหาแต่อย่างใดนั้น กรณีดังกล่าวจะเป็นเรื่องบังเอิญไปพบกันได้อย่างไร คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้า หากแต่เป็นข้อพิรุธที่ถูกสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโซเขียลต่อการปรากฏของภาพดังกล่าว ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี บช.ก. และ ปปง. ได้ออกแถลงยึดทรัพย์บุคคลต่างๆ ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมอำพรางของเครือข่ายสแกมเมอร์ไว้ตรวจสอบเพียงข้ามคืน แม้ภาพต่างๆ ดังกล่าวจะถูกผู้หวังดีแต่อาจประสงค์ร้ายปล่อยออกมาสู่โซเชียลฯอย่างมีพิรุธก็ตาม
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำปฏิเสธของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงการคลัง ประชาชนคงไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะเป็นจริงตามคำปฏิเสธดังกล่าวหรือไม่ เพราะภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อมีไฟย่อมมีควัน ฉันใดก็ฉันนั้น เพราะพฤติการณ์ตามภาพดังกล่าวอาจเข้าข่ายการคบหาสมาคมกับคู่กรณีที่มีชื่อเสียงในทางลบ อันอาจจะเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดไว้ในข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 17 และข้อ 19 ประกอบข้อ 27 ได้ อันทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความไปร้องเรียนและชี้เบาะแสให้ ป.ป.ช. ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในการไต่สวนในเชิงลึกเพื่อพิสูจน์ทราบให้จงได้ว่า ภาพที่ปรากฏนั้น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตข้าราชการระดับสูงหลายท่าน นายทุนพรรคการเมือง และนักธุรกิจพลังงานชื่อดังดังกล่าว มีพฤติการหรือการกระทำที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันอันขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ และหรือเป็นไปตามคำปฏิเสธของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่ และหลังจากนี้อาจจะต้องไปร้อง กกต. ให้ตรวจสอบพรรคการเมืองหลายพรรคที่อาจจะเกี่ยวข้องด้วย


