จากกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุม นานา ไรบีนา อายุ 44 ปี ตามหมายจับฐานความผิด ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนนั้น มีรายงานถึงพฤติการณ์ของ นานา ไรบีนา ว่า ได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ อาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตัวเอง ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับ นานา ไรบีนา โดยระยะแรกผู้เสียหายบางราย ได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับ นานา ไรบีนา นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา จากนั้น ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นานา ไรบีนา เริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ และเมื่อถูกทวงถามได้ออกเช็คเงินสด เพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้ผู้เสียหาย เมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี ส่วนบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูก นานา ไรบีนา กล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่นานาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวม ว่า 190 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว นานา ไรบีนา ยังปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ที่ นานา ไรบีนา เป็นเจ้าของอยู่ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่านานาไม่ได้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยมีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ส่วนของกลางที่ตำรวจตรวจยึด ได้แก่ 1.โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง 2.art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง 3.ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น 4.กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ 5.กระเป๋า หิ้ว louis vuitton 1 ใบ 6.จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น 7.รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กทม.จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว นานา ไรบีนา ยังปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ที่ นานา ไรบีนา เป็นเจ้าของอยู่ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่านานาไม่ได้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยมีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ส่วนของกลางที่ตำรวจตรวจยึด ได้แก่ 1.โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง 2.art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง 3.ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น 4.กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ 5.กระเป๋า หิ้ว louis vuitton 1 ใบ 6.จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น 7.รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กทม.จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา


