นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบหารือกับ นายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (H.E. Mr. OTAKA Masato) ในโอกาสรับมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายอัครุตม์ สนธยานนท์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางชนิดา เกษมศุข รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และนายซุนซูเกะ ซากุโด หัวหน้าสำนักงาน JICA ประจำประเทศไทย เข้าร่วม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ ประกอบด้วย (1) เต็นท์ขนาดใหญ่ 150 หลัง (2) แผ่นรองนอน 3,000 ผืน (3) ผ้าห่ม 3,000 ผืน (4) ผ้าพลาสติกกันน้ำ 150 ผืน (5) ถังน้ำพลาสติก 500 ใบ สำหรับเก็บน้ำสะอาด (6) เครื่องกรองน้ำ 20 เครื่อง ผลิตน้ำสะอาดได้นาทีละ 4 ลิตร ช่วยแก้ปัญหาน้ำดื่มสะอาดในพื้นที่มูลค่า รวมประมาณ 7,100,000 บาท โดยทั้งหมดจะถูกนำส่งมอบไปยังศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินการแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่หาดใหญ่ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในนามของรัฐบาลไทยและพี่น้องประชาชนชาวไทย แสดงความซาบซึ้งใจต่อรัฐบาลญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำหรับการมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ พร้อมชื่นชมในความรวดเร็ว และความจริงใจของฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและไว้เนื้อเชื่อใจกันมายาวนานระหว่างสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า สิ่งของช่วยเหลือทั้งหมดจะถูกนำส่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ถึงมือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง โดยรัฐบาลจะเดินหน้าปรับปรุงระบบเตรียมความพร้อมด้านภัยพิบัติในทุกมิติ ควบคู่กับการจัดทำมาตรการรองรับที่เหมาะสมและยั่งยืน เพื่อให้ระบบบริหารจัดการภัยพิบัติมีศักยภาพในการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ลดผลกระทบให้น้อยที่สุด
ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น กล่าวว่า ทั้งสองประเทศต่างยืนหยัดเคียงข้างกันเสมอในยามที่ต้องเผชิญความยากลำบาก ความช่วยเหลือครั้งนี้จึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มั่นคงระหว่างสองประเทศ และยังสะท้อนถึงความรู้สึกตอบแทนน้ำใจที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นมีต่อความช่วยเหลืออันอบอุ่นที่ประเทศไทยได้มอบให้แก่ญี่ปุ่นในยามที่ประสบความยากลำบากเมื่อในอดีตที่ผ่านมา จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งของบรรเทาทุกข์เหล่านี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย พร้อมขอให้ประชาชนปลอดภัยและฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ได้ในเร็ววัน โดยประเทศญี่ปุ่นจะขอยืนเคียงข้างชาวไทยทุกท่านเสมอ
ขณะที่หัวหน้าสำนักงาน JICA กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและญี่ปุ่นต่างเคยช่วยเหลือกันในยามวิกฤตมาโดยตลอด เช่น ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่นในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คุมาโมโตะ และเหตุการณ์แผ่นดินไหว-สึนามิในโทโฮคุ ขณะที่ญี่ปุ่นก็เคยให้การสนับสนุนไทยในเหตุการณ์สึนามิปี 2547 และอุทกภัยใหญ่ปี 2554 ซึ่งตอกย้ำว่า "เมื่อเพื่อนประสบปัญหา เราจะช่วยเหลือกันเสมอ"
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยย้ำว่าน้ำใจไมตรีจากประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำของพี่น้องประชาชนชาวไทย และสะท้อนถึงความพร้อมของทั้งสองประเทศในการยื่นมือช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์อย่างแท้จริง


