นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งถนนหนทาง รถยนต์และที่หนักที่สุดก็คงหนีไม่พ้นบ้านที่อยู่อาศัยนั้น เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องใกล้เข้าสู่ภาวะปกติในหลายพื้นที่ แต่ช่วงเวลาดังกล่าว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของกลุ่มคนพิการที่ประสบภัยพิบัติอย่างชัดเจน ทั้งวิกฤตที่ไฟฟ้าดับ สัญญาณสื่อสารขาดหาย และการอพยพต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้รถเข็นหรือผู้ป่วยติดเตียง ประสบปัญหาในการช่วยเหลือตนเองและการอพยพเป็นอย่างมาก และศูนย์พักพิงชั่วคราวส่วนใหญ่ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เข้าถึงได้ ทำให้คนพิการจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพที่ซ้ำซ้อน เช่น การขาดแคลนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อุปกรณ์การแพทย์จำเป็น และการขาดผู้ช่วยดูแลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เพื่ออุดช่องว่างดังกล่าว สสส. จึงร่วมกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม และภาคีเครือข่าย ผลักดัน โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นคนพิการ (Emergency – Recovery – Resilience Model) ผ่านแผนงานแบบครบวงจร 3 ระยะ คือ 1.ระยะสั้น ช่วยเหลือเร่งด่วน เน้น “ความปลอดภัย การอยู่รอดเข้าถึงได้จริง” โดยจัดทีมลงพื้นที่เช็คความปลอดภัย จัดการช่วยเหลือด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน อุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น ให้การดูแลกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จัดหาชุดยังชีพ สิ่งของ และอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาหารบด อาหารอ่อน ยาและอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐาน รวมถึงงบประมาณช่วยเหลือฉุกเฉิน งบฟื้นฟูสำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เสียหายจากภัยพิบัติ เบี้ยเดินทางสำหรับการเข้าถึงบริการสาธารณสุข 2.ระยะกลาง ฟื้นฟูความเป็นอยู่ เน้น “กลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด” ปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เสียหายด้วย Universal Design ช่วยจัดพื้นที่ให้ปลอดภัย ป้องกันการลื่นล้ม วางระบบไฟ สวิทช์ ห้องน้ำให้เหมาะกับผู้ใช้รถเข็นหรือผู้พิการทางการมองเห็น จัดอบรมคนพิการให้ดูแลตัวเอง โดยแบ่งประเภทตามภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และแบ่งประเภทความพิการในการช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เพื่ออุดช่องว่างดังกล่าว สสส. จึงร่วมกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม และภาคีเครือข่าย ผลักดัน โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นคนพิการ (Emergency – Recovery – Resilience Model) ผ่านแผนงานแบบครบวงจร 3 ระยะ คือ 1.ระยะสั้น ช่วยเหลือเร่งด่วน เน้น “ความปลอดภัย การอยู่รอดเข้าถึงได้จริง” โดยจัดทีมลงพื้นที่เช็คความปลอดภัย จัดการช่วยเหลือด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน อุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น ให้การดูแลกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จัดหาชุดยังชีพ สิ่งของ และอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาหารบด อาหารอ่อน ยาและอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐาน รวมถึงงบประมาณช่วยเหลือฉุกเฉิน งบฟื้นฟูสำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เสียหายจากภัยพิบัติ เบี้ยเดินทางสำหรับการเข้าถึงบริการสาธารณสุข 2.ระยะกลาง ฟื้นฟูความเป็นอยู่ เน้น “กลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด” ปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เสียหายด้วย Universal Design ช่วยจัดพื้นที่ให้ปลอดภัย ป้องกันการลื่นล้ม วางระบบไฟ สวิทช์ ห้องน้ำให้เหมาะกับผู้ใช้รถเข็นหรือผู้พิการทางการมองเห็น จัดอบรมคนพิการให้ดูแลตัวเอง โดยแบ่งประเภทตามภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และแบ่งประเภทความพิการในการช่วยเหลือ


