นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ความรับผิดชอบทางการบริหารของรัฐบาลอนุทิน
ฝนตกหนักเป็นธรรมชาติที่ห้ามไม่ได้ น้ำท่วมสูงก็เป็นสิ่งที่เกิดตามมา แต่การบริหารจัดการช่วยเหลือผู้คนที่ติดค้างให้มีชีวิตรอดด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่มนุษย์จัดการได้
ท้องถิ่น อาจบกพร่องในการประเมินสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง แต่เขาก็มีข้อจำกัดทั้งเครื่องมือและกำลังคน จึงเป็นหน้าที่ของส่วนกลางในการตัดสินใจใช้กลไกการบริหารและระดมกำลังลงมาช่วยเหลือ
แม้ระบบราชการจะเป็นอุปสรรค อุ้ยอ้าย และไม่คุ้นเคยกับการบริหารในภาวะวิกฤต แต่ฝ่ายการเมืองที่กำกับไม่สามารถผลักความรับผิดชอบออกจากตัวได้ เพราะท่านมีอำนาจสูงสุดที่จะใช้กลไกใดๆ ใช้บุคลากรใดๆ ก็ได้ เพื่อช่วยชีวิตผู้คนเป็นอันดับแรก
ความล่าช้าในการดำเนินการ ความสับสนในการสั่งการ การทำงานเพื่อมุ่งสร้างภาพสร้างคะแนนนิยม มากกว่าการแก้ปัญหาที่ทุกนาทีมีความสำคัญต่อชีวิตของคนนับหมื่นที่ติดค้าง ขาดน้ำ ขาดอาหาร และไม่น้อยที่เป็นคนป่วย คนสูงอายุ เด็กอ่อน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าหนึ่งร้อยคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ จึงไม่ใช่การชี้นิ้วหาผู้รับผิดและพูดคำเดิมซ้ำซากว่ารัฐบาลไม่ล่าช้า แต่นายกอนุทินและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะควรออกมาโค้งขอโทษประชาชนที่ยังไม่สามารถใช้กลไกการบริหารในการช่วยเหลือประชาชนอย่างได้ผล
การขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งและเปิดโอกาสให้สภาผู้แทนลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น คือ การแสดงออกถึงความรับผิดชอบและเป็นความสง่างามสูงสุด
การลาออก สภายังอยู่ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเดินหน้าต่อเนื่อง และหากสภาผู้แทนราษฎร เห็นสมควรว่าใครควรจะเป็นนายก ก็ลงมติเลือกคนนั้น หากสภาเห็นว่า คุณอนุทิน ยังเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ลงมติกลับมาได้
หรือ หากพรรคประชาชน จะร่วมมือกับใคร จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากที่ตัวเป็นแกนนำ ก็เป็นโอกาสในการแสดงความสามารถในการบริหารประเทศ แก้ทั้งปัญหาชายแดน ปัญหาสแกมเมอร์ และ การเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างได้ผล
แบบนี้ ก็ยังไม่ต้องยุบสภา ไม่ต้องรีบประชามติ เอาเงินเลือกตั้งเกือบหมื่นล้านไปช่วยภาคใต้ก่อนครับ


