นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สรุปนโยบายการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า กระทรวงการคลังได้มีการตั้ง "ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์" เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง โดยมอบหมายให้นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการบูรณาการการปฏิบัติงาน ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำกรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 ระยะ
คือ ช่วยเหลือ เยียวยา และ ฟื้นฟู เร่งออกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเป็นระบบ ตามขอบเขตความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลัง โดยมีศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการและติดตามสถานการณ์จากส่วนกลางอย่างใกล้ชิด
ระยะที่ 1 ช่วยเหลือ – ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน อาทิ
• ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของจำเป็น ณ อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง เพื่อเป็นจุดรวมของบริจาคจากหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง รวมทั้งรับบริจาคจากภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยเน้นรับสิ่งของที่ผู้ประสบภัยต้องการจริง เช่น อาหารพร้อมรับประทาน น้ำ ยารักษาโรค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ไฟฉายพร้อมถ่าน เพาเวอร์แบงค์ เป็นต้น
• กรมบัญชีกลางได้ออกแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างช่วงเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ภาครัฐเร่งจัดการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ด้วยแล้ว
• ให้กรมธนารักษ์ จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยเร่งด่วน พร้อมทั้งบริหารจัดการดูแลผู้ประสบอุทกภัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ศูนย์พักพิง
ระยะที่ 2 เยียวยา – ให้ผู้ประสบภัยกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงการคลังจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัด ทั้งหมด ในการออกมาตรการเยียวยาทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำท่วมลดระดับอย่างครอบคลุม อาทิ
• การพักชำระหนี้
• การลดดอกเบี้ย
• การออกสินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ร้านค้า
• การมอบเงินเยียวยา
• การประสานให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามามีบทบาทในการเร่งระยะเวลาและดูแลการเคลมประกันภัย
• การจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนที่ยังไม่สามารถอาศัยในที่พักของตนได้
• การขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกิจการและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยซึ่งจะเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ
ระยะที่ 3 ฟื้นฟู - ให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจกลับมาได้ กระทรวงการคลังจะออกมาตรการฟื้นฟูที่จำเป็นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบในภาพรวม โดยเน้นมาตรการที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถฟื้นฟูอาชีพ และชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การออกสินเชื่อฟื้นฟู ซึ่งจะได้มีการพิจารณาออกมาตรการตามความเหมาะสม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องทำอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการทำงานอย่างเป็นระบบและบูรณาการทรัพยากรของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังให้ไปถึงประชาชนและภาคธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมายสำคัญในตอนนี้คือทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยในชีวิต ขณะเดียวกัน หน่วยงานในสังกัด ทั้งภาคราชการ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานในกำกับ จะดำเนินการเร่งออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการทำให้ชีวิตของประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับความช่วยเหลือในทุกมิติอย่างเร็วที่สุด และมีขวัญกำลังใจที่ดีตามมา


