พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 กล่าวเปิดศูนย์ประสานงานของวุฒิสภาช่วยน้ำท่วม ว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในหลายจังหวัดภาคไต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มหาอุทกภัยครั้งนี้ทำให้เกิดผลกระกระทบและสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก วุฒิสภามีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
โดยประธานวุฒิสภา ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานของวุฒิสภาขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และมอบหมายให้ตนในฐานะรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดยสมาชิกวุฒิสภาบางคนได้ประสานงานติดต่อตามเครือข่ายของแต่ละคน ให้ตรวจสอบสิ่งของอุปโภคที่จำเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำ และของบางส่วนส่งไปถึงก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ ตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดรับบริจาคเงินจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เพื่อนำเงินที่ได้รับส่งต่อให้แก่สมาชิกวุฒิสภาในพื้นที่ บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับน้ำใจจากสมาชิกหลายคนที่กำลังระดมเงินบริจาคกันพอสมควร
นอกจากนี้ วุฒิสภาขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยทุกคน ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน เราทุกคนพร้อมที่จะเคียงข้างประชาชน ถึงแม้ว่าบางส่วนอาจจะไม่ได้ลงไปในพื้นที่ และขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ การบริหารขั้นต้นอาจจะฉุกเฉินไปบ้าง และนายกรัฐมนตรีได้ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้
พล.อ.เกรียงไกร ยังมองว่าการทำงานของรัฐบาลไม่ช้า เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณวันที่ 21 พฤศจิกายน จะเห็นว่านายกรัฐมนตรีลงไปในพื้นที่ทันทีและดำเนินการในขั้นต้น ซึ่งสถานการณ์ในหาดใหญ่ น้ำไม่ท่วมมาเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นความไม่คาดคิดตรงนี้ทำให้การบริหารสถานการณ์ในขั้นต้นอาจจะฉุกเฉินไปหน่อย อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกภาคส่วนได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้ให้การช่วยเหลือและได้ลงไปทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ซึ่งจากสถานการณ์ที่เห็น บางพื้นที่เข้าไม่ได้จริงๆ เพราะน้ำเชี่ยว อีกทั้งมีอุปสรรคในการเดินเรือ ถ้าเราอยู่ในพื้นที่เราก็จะทราบ บางครั้งเห็นว่ามีความพยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่หลังจากมีการสั่งการของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปบัญชาการเหตุการณ์ และได้มีการจัดตั้งศูนย์ขึ้นมาแบ่งหน้าที่การทำก็น่าจะดีขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.เกรียงไกร ยังกล่าวถึงการฟื้นฟูหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ว่า ขั้นต้นควรจะเตรียมการฟื้นฟู ทั้งสาธารณูปโภค อาคารสถานที่ รวมทั้งการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอยู่ในแผนของการปฏิบัติการอยู่แล้ว บางครั้งการแจ้งเตือนของรัฐมีแล้ว แต่ประชาชนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และจากประสบการณ์ ในการเป็นแม่ทัพภาค 4 เรามีการแบ่งโซนในการดูแลของแต่ละหน่วยทหารเพื่อเป็นหน้าที่กระทำ ก็จะทำให้การบริหารงานแก้ไขปัญหาต่อเนื่องได้ แต่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเหนือความคาดหมายก็เลยเกิดการติดต่อสื่อสารที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามทันท่วงที เพราะรถทหารบางคันที่ว่าสูงแล้วก็ยังเข้าไม่ได้
สำหรับเรื่องการเยียวยา เชื่อว่านายกรัฐมนตรีรีบเร่งดำเนินการอยู่แล้ว และมีการประกาศว่าในช่วงการฟื้นฟูมาตรการการเยียวยา หรือการออกสินเชื่อให้กับผู้ประกอบอาชีพของผู้ประสบภัย รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไป ซึ่งจะเห็นว่าในคณะรัฐมนตรีได้มีการแบ่งมอบให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ การฟื้นฟูเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากฟื้นฟูสภาพที่เรามองเห็นโดยทั่วไปที่เป็นรูปธรรมที่จะเกิดขึ้นอาคารบ้านเรือนสถานที่สาธารณูปโภคต่างๆ แล้ว ต้องฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย
โดยประธานวุฒิสภา ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานของวุฒิสภาขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และมอบหมายให้ตนในฐานะรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดยสมาชิกวุฒิสภาบางคนได้ประสานงานติดต่อตามเครือข่ายของแต่ละคน ให้ตรวจสอบสิ่งของอุปโภคที่จำเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำ และของบางส่วนส่งไปถึงก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ ตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดรับบริจาคเงินจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เพื่อนำเงินที่ได้รับส่งต่อให้แก่สมาชิกวุฒิสภาในพื้นที่ บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับน้ำใจจากสมาชิกหลายคนที่กำลังระดมเงินบริจาคกันพอสมควร
นอกจากนี้ วุฒิสภาขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยทุกคน ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน เราทุกคนพร้อมที่จะเคียงข้างประชาชน ถึงแม้ว่าบางส่วนอาจจะไม่ได้ลงไปในพื้นที่ และขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ การบริหารขั้นต้นอาจจะฉุกเฉินไปบ้าง และนายกรัฐมนตรีได้ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้
พล.อ.เกรียงไกร ยังมองว่าการทำงานของรัฐบาลไม่ช้า เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณวันที่ 21 พฤศจิกายน จะเห็นว่านายกรัฐมนตรีลงไปในพื้นที่ทันทีและดำเนินการในขั้นต้น ซึ่งสถานการณ์ในหาดใหญ่ น้ำไม่ท่วมมาเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นความไม่คาดคิดตรงนี้ทำให้การบริหารสถานการณ์ในขั้นต้นอาจจะฉุกเฉินไปหน่อย อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกภาคส่วนได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้ให้การช่วยเหลือและได้ลงไปทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ซึ่งจากสถานการณ์ที่เห็น บางพื้นที่เข้าไม่ได้จริงๆ เพราะน้ำเชี่ยว อีกทั้งมีอุปสรรคในการเดินเรือ ถ้าเราอยู่ในพื้นที่เราก็จะทราบ บางครั้งเห็นว่ามีความพยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่หลังจากมีการสั่งการของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปบัญชาการเหตุการณ์ และได้มีการจัดตั้งศูนย์ขึ้นมาแบ่งหน้าที่การทำก็น่าจะดีขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.เกรียงไกร ยังกล่าวถึงการฟื้นฟูหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ว่า ขั้นต้นควรจะเตรียมการฟื้นฟู ทั้งสาธารณูปโภค อาคารสถานที่ รวมทั้งการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอยู่ในแผนของการปฏิบัติการอยู่แล้ว บางครั้งการแจ้งเตือนของรัฐมีแล้ว แต่ประชาชนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และจากประสบการณ์ ในการเป็นแม่ทัพภาค 4 เรามีการแบ่งโซนในการดูแลของแต่ละหน่วยทหารเพื่อเป็นหน้าที่กระทำ ก็จะทำให้การบริหารงานแก้ไขปัญหาต่อเนื่องได้ แต่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเหนือความคาดหมายก็เลยเกิดการติดต่อสื่อสารที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามทันท่วงที เพราะรถทหารบางคันที่ว่าสูงแล้วก็ยังเข้าไม่ได้
สำหรับเรื่องการเยียวยา เชื่อว่านายกรัฐมนตรีรีบเร่งดำเนินการอยู่แล้ว และมีการประกาศว่าในช่วงการฟื้นฟูมาตรการการเยียวยา หรือการออกสินเชื่อให้กับผู้ประกอบอาชีพของผู้ประสบภัย รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไป ซึ่งจะเห็นว่าในคณะรัฐมนตรีได้มีการแบ่งมอบให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ การฟื้นฟูเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากฟื้นฟูสภาพที่เรามองเห็นโดยทั่วไปที่เป็นรูปธรรมที่จะเกิดขึ้นอาคารบ้านเรือนสถานที่สาธารณูปโภคต่างๆ แล้ว ต้องฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย


