xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.ขยายเพิ่ม 60 คู่สาย รองรับแจ้งเหตุ-รับความช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายพื้นที่ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จาก 8 ศูนย์ ปภ. เขต ทั่วประเทศ เข้าสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย ประกอบด้วย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 5 นครราชสีมา เขต 8 กำแพงเพชร เขต 10 ลำปาง เขต 13 อุบลราชธานี เขต 14 อุดรธานี และเขต 15 เชียงราย โดยเครื่องจักรกลสาธารณภัยที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งเรือท้องแบนกู้ภัยพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 13 ลำ รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 14 คัน รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 2 คัน รถโรงครัวประกอบอาหาร จำนวน 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (KA-32) จำนวน 1 ลำ

ทั้งนี้ ทรัพยากร ปภ. ที่สนับสนุนเพิ่มเติมจะถึงพื้นที่ ประกอบด้วย เจ็ตสกี จำนวน 3 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (KA-32) อีกจำนวน 1 ลำ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ปภ. ได้ออกปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ดูแลทั้งด้านการดำรงชีพ ประกอบอาหารกล่องเพื่อแจกจ่ายประชาชน (ตั้งแต่วันที่ 23-25 พ.ย. 68) จำนวน 3,500 กล่อง การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางและผู้ประสบภัย ได้นำเรือและรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 800 คน ด้านการสนับสนุนการขนย้ายอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ ได้นำรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยทำการขนย้ายเครื่องนอนและอาหารไปยังจุดแจกจ่าย และด้านการสนับสนุนการปฏิบัติการทางอากาศ โดยปฏิบัติการร่วมกับกองทัพบกนำเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (KA-32) ออกปฏิบัติการขึ้นบินลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก

นอกจากนี้ ปภ.ยังบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ในการรวบรวมข้อมูลรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านสายด่วน ปภ. 1784 โดย ปภ. ได้ขยายคู่สายเพิ่มอีก 60 คู่สาย เพื่อรองรับการแจ้งเหตุและการขอรับความช่วยเหลือในพื้นที่ โดยบูรณาการข้อมูลรวมกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยจะนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและแบ่งเคสการช่วยเหลือ ทั้งกรณีเร่งด่วนวิกฤติ และกรณีติดค้าง โดยข้อมูลที่ได้นี้จะส่งไปยังที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป