xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสูงสิงคโปร์ไฟเขียวฟ้อง "สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด" เอี่ยวทุจริต 1MDB

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลสูงสิงคโปร์มีคำสั่งให้เดินหน้าคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 2.7 พันล้านดอลลาร์ จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered Bank) ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย (1MDB)

คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากศาลยกคำร้องของธนาคารฯ ที่พยายามขอให้จำหน่ายคดี (Strike out) ส่งผลให้คดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไปได้ โดยกลุ่มผู้ชำระบัญชีระบุในแถลงการณ์วันนี้ (24 พ.ย.) ว่าเป็นชัยชนะทางกฎหมายครั้งสำคัญ

คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อคณะผู้ชำระบัญชีซึ่งทำหน้าที่ทวงคืนทรัพย์สินจากกองทุน 1MDB ยื่นฟ้องสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด โดยกล่าวหาว่าธนาคารเอื้อให้เกิดการฉ้อโกงจนสร้างความเสียหายกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อกว่า 10 ปีก่อน

ด้านโฆษกธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด แถลงโต้ทันทีว่า ธนาคารฯ ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินและจะยื่นอุทธรณ์" โดยยืนยันจุดยืนเดิมเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง

บริษัท 3 แห่งที่อยู่ระหว่างการชำระบัญชีและมีความเชื่อมโยงกับ 1MDB กล่าวหาว่า ระหว่างปี 2552-2556 สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด อนุญาตให้มีการโอนเงินระหว่างกันภายในธนาคารกว่า 100 ครั้ง ซึ่งช่วยอำพรางเส้นทางของเงินที่ถูกขโมยมา นอกจากนี้ ยังกล่าวหาว่าธนาคารฯ เลือกที่จะเพิกเฉยต่อสัญญาณพิรุธที่ปรากฏชัดแจ้งเกี่ยวกับการโอนเงินเหล่านั้น จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้น

ผู้ชำระบัญชีระบุว่า เงินบางส่วนที่ไหลผ่านบัญชีของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันกำลังรับโทษจำคุก 6 ปี จากคดีทุจริต 1MDB

สำหรับมหากาพย์การทุจริต 1MDB ทีมสอบสวนสหรัฐฯ ระบุว่ามีการยักยอกเงินกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2552-2557 ผ่านเครือข่ายซับซ้อนทั่วโลก ซึ่งมีการสอบสวนแล้วในอย่างน้อย 6 ประเทศ รวมถึงสิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยเมื่อปี 2559 ธนาคารกลางสิงคโปร์เคยสั่งปรับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สาขาสิงคโปร์ เป็นเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ฐานละเมิดกฎระเบียบด้านการป้องกันการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้

ทางการมาเลเซียเปิดเผยเมื่อปีก่อนว่า สามารถติดตามทรัพย์สินของ 1MDB คืนมาได้แล้วประมาณ 2.9 หมื่นล้านริงกิต หรือราว 7.01 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาระหว่างปี 2562 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567