นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเข้าร่วมประชุม Indo-Pacific Ministerial Forum (PIMF) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า การประชุม Indo-Pacific Ministerial Forum ที่วันนี้ได้เข้าร่วม ASEAN-EU Ministerial Lunch พูดคุยถึงสถานการณ์โลกที่ผันแปร การส่งเสริมความสัมพันธ์ในอาเซียน การรักษาระเบียบโลกที่ยึดมั่นในกฏหมาย กติการะหว่างประเทศ แต่จากการแพร่ขยายของมาตรการฝ่ายเดียว การกีดกันทางการค้า และมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ในการเจรจาการค้าและการเมือง ในสถานการณ์อย่างนี้ อาเซียนและอียู ต้องกระชับความเป็นหุ้นส่วนเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ที่เปิดเสรี ระหว่างอาเซียนและอียู ซึ่งมีความคืบหน้าและเห็นผลเพิ่มขึ้น ทั้งการมีเขตการค้าเสรีอียูกับอาเซียน ซึ่งมีทั้งเวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่ใกล้จะลงนามแล้ว ยังเหลือไทย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งอาจจะให้มีการเจรจากับอาเซียนและอียู
ขณะที่โลกเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปค ต่างพูดถึงการปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรี ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ซึ่งรัฐมนตรีหลายประเทศสนใจเข้าร่วมประชุม
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมมีประเทศใดสอบถามถึงสถานการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกคนห่วงใย รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เวทีวันนี้ไม่ได้พูดถึง เพราะเชื่อว่าให้ไทยกับกัมพูชาแก้ปัญหาระดับทวิภาคี และในเวทีวันนี้เราพูดกันในประเด็นอาเซียน อียู ว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไร เรามองความท้าทายที่เผชิญอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง แต่ในโอกาสที่หารือทวิภาคีกับบางประเทศ อย่างรัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย ได้สอบถามถึงเรื่องนี้ จึงเล่าให้ฟังว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร การที่ไทยระงับการปฏิบัติการตามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา เพราะมีการละเมิดจากฝ่ายกัมพูชา เรื่องทุ่นระเบิดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราต้องระงับไปก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าระงับแล้วไม่ทำอะไรเลย การเก็บกู้ทุ่นระเบิดยังเดินหน้า เรามุ่งหวังชายแดนปราศจากทุ่นระเบิด กัมพูชาก็ไม่ได้ขัดขวาง ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็เห็นความสำคัญ ถ้าไทยทำเรื่องทุ่นระเบิด ก็จะพอจะบูรณาการนำเข้าภาษีกับไทย และความร่วมมือปราบปรามชายแดน ล่าสุด การทำงานระดับเทคนิคมีขึ้นแล้ว ที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว มีการเดินหน้าปักหมุดชั่วคราว ถ้ารุกล้ำ แก้ไขสันติวิธี
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการกล่าวของกัมพูชามีรองนายกรัฐมนตรีที่ไม่ใช่นายปรัก สุคนธ์ มาร่วมประชุม แต่ได้เน้นเรื่องอาเซียนและอียู ว่าจะกระชับแน่นแฟ้น ไม่ได้แตะโดยตรง แต่พูดถึงความปราถนาที่กัมพูชาต้องการสันติภาพ ต้องการแก้ไขเจรจาพูดคุยสันติวิธี ซึ่งกัมพูชาคงเห็นว่าเวทีนี้ไม่เหมาะสม จึงไม่ได้พูดถึงสถานการณ์ไทยและกัมพูชาโดยตรง
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า ในการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย หยิบยกว่า เราแก้แบบสันติวิธี ทำตามข้อตกลง มุ่งมั่นตามข้อตกลงกันไว้ หวังว่ากันกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไทยไม่ได้เสียเปรียบอะไร เรายึดท่าที เพราะมีการละเมิดสิ่งที่ตกลงกันไว้คือเรื่องทุ่นระเบิด เราก็ต้องระงับไว้ก่อน
นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า เรามีปัญหากับกัมพูชา แต่เรายังขับเคลื่อนเรื่องบทบาทในเวทีต่างๆ มีข้อเสนอแนะอย่างเต็มที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องหาทางแก้ไข แต่จะมีวาระการประชุมในต่างประเทศ ไทยต้องแสดงใช้เวทีต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ด้วยตามความเหมาะสม"


