xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ชี้มูล "รัชฎา" กับพวก ปมเรียกรับเงิน-ทุจริตจัดซื้อป่าชายเลน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญ กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวก เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ และทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เมื่อปี พ.ศ. 2565

1. กรณีเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ ได้จับกุมนายรัชฎาสุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 98,000 บาท และจากการตรวจค้นภายในห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา พบเงินสดอีกจำนวน 4,843,300 บาท จึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าว รวม 21 รายการ และส่งคำร้องทุกข์กล่าวโทษ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา กรณีมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงาน ในสังกัด เพื่อมิให้ถูกโยกย้ายตำแหน่งและเก็บเงินรายเดือนจากหมวดงบประมาณต่าง ๆ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนและมีมติชี้มูลความผิดนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ในส่วนของเงินสดของกลางจำนวน 98,000 บาท และเงินสดที่ตรวจยึดได้จำนวน 2,693,300 บาท แล้ว โดยให้แยกประเด็นเกี่ยวกับ เงินสดจำนวน 2,150,000 บาท และสิ่งของที่ตรวจยึดได้จำนวน 4 รายการ และกรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง งานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เพื่อดำเนินการไต่สวนเป็นคดีนี้

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ภายหลังนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เข้าดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้ร่วมกับนายอลงกรณ์ เศรษฐเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 เรียกรับเงินจำนวน 600,000 บาท จากนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ และนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ได้ยินยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ตามที่ ถูกเรียกรับสำหรับเงินสดจำนวน 1,850,000 บาท ที่ตรวจพบภายในห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 แม้ไม่ปรากฏว่าเป็นทรัพย์สินที่นายรัชฎา สุริยกุลณ อยุธยา ได้รับจากบุคคลใดและเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา หรือไม่ อย่างไร แต่เป็นกรณีที่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มีพฤติการณ์รับทรัพย์สินจากผู้อื่น นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

2. กรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ 2565 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย งานจัดซื้อกล้าไม้ป่าชายเลน จำนวน 161,700 ต้น และงานจัดจ้างเหมาค่าแรง ค่าใช้สอยและวัสดุ สำหรับบำรุงป่าชายเลน(โครงการปลูกป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร) จำนวน 5 โครงการ นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้จัดทำรายงานข้อมูลการสืบราคาจัดซื้อจัดจ้างอันเป็นเท็จเพื่อนำมากำหนดเป็นราคากลาง แล้วติดต่อตกลงกับนางสาวฉันทนา รำเพยพัด นางสาวอิงอร แสงแก้ว และนายนิพล วัดนครใหญ่ ซึ่งเป็นญาติของผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เข้าเสนอราคาและเป็นคู่สัญญาผู้รับจ้าง งานบำรุงป่าชายเลน จำนวน 5 สัญญา วงเงินรวม 785,400 บาท และติดต่อตกลงกับหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง ซึ่งมิได้เป็นผู้มีอาชีพขายกล้าไม้ป่าชายเลน ให้เข้าเสนอราคาและเป็นคู่สัญญาผู้ขายกล้าไม้ป่าชายเลน วงเงิน 485,100 บาท โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซื้อได้ทำหลักฐานการตรวจรับพัสดุว่าถูกต้องตรงตามสัญญา ทั้งที่ผู้ขายและผู้รับจ้างงานบำรุงป่าชายเลนดังกล่าวมิได้ส่งมอบกล้าไม้และทำงานจ้างบำรุงป่าชายเลนให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า หลังจากมีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างและค่าจัดซื้อดังกล่าวแล้ว นางสาวอิงอร แสงแก้ว และห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง ได้มีการให้เงินค่าจ้างและค่าจัดซื้อซึ่งเป็นส่วนแบ่งผลประโยชน์จากการใช้ หรือเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่เกิดจากการทุจริตร่วมกันแก่นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะชุมพร และนายจงรัก ภู่ไพบูลย์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ด้วย

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้ กรณีทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่

1. การกระทำของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา และนายอลงกรณ์ เศรษฐเชื้อ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 มาตรา 172 และมาตรา 173 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

2. การกระทำของนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 176 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

กรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)

1. การกระทำของนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) มาตรา 264 มาตรา 268 และมาตรา 341 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

2. การกระทำของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ และเจ้าหน้าที่พัสดุ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี

3. การกระทำของนายจงรักษ์ ภู่ไพบูลย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

4. การกระทำของนางสาวฉันทนา รำเพยพัด นางสาวอิงอร แสงแก้ว และนายนิพล วัดนครใหญ่ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดและฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้แจ้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง