xs
xsm
sm
md
lg

"นิพิฏฐ์"เตือนคดีฮั้ว สว.อย่าประมาท กรณีพยานกลับคำอย่าคิดว่าไม่มีน้ำหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า คดีฮั้ว สว.อย่าประมาท กรณีพยานกลับคำ

ผมมีประสบการณ์เรื่องนี้ ตอนเลือกตั้งครั้งหนึ่ง มีการถ่ายบัตรประชาชน และส่งสำเนาบัตร เข้าศูนย์เลือกตั้งของพรรคการเมือง

ผมเก็บข้อมูลได้ จึงส่งสำเนาบัตรที่ถูกถ่ายส่งไปให้กกต. เพื่อให้กกต.ตรวจสอบว่า เขาส่งสำเนาบัตรไปให้ศูนย์เลือกตั้งของผู้สมัครทำไม

กกต.ก็ออกสุ่มตัวอย่างตามสำเนาบัตร มีพยาน 4- 5 คน ให้การว่า มีคนมาให้เงินคนละ 500 บาท เพื่อให้เลือกผู้สมัคร

ผมคิดว่าเพียงพอแล้ว ที่จะวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งมิได้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะพยานมาจากการสุ่มตัวอย่างของกกต.

หลังจากนั้น 1 เดือน พยานทั้ง 4- 5 คน กลับคำให้การหมด โดยให้การใหม่ว่า เงินที่มีผู้นำมาให้ ตนได้มาคิดใหม่แล้ว มิใช่เงินที่ให้เพื่อให้เลือกผู้สมัคร แต่เป็นเงินที่รับไว้เป็นเงินฉลองปีใหม่,เป็นเงินค่าฉีดวัคซีนไก่,เป็นเงินค่าไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยครูสงขลา,เป็นเงินค่าซื้อน้ำมันพืช,

ผมคิดว่าปกติเวลาพยานกลับคำ ศาลมักจะเชื่อการให้การครั้งแรกมากกว่าการให้การครั้งหลัง

ที่ตลกมาก คือ ตามบันทึกการสอบสวนของ กกต. ระบุว่า กกต.เดินทางไปสอบพยานที่กลับคำให้การที่บ้านของพยาน

ผมเลยงงว่า เจ้าหน้าที่รู้ได้อย่างไรว่าพยานจะกลับคำจึงเดินทางไปสอบถึงบ้าน

เมื่อ กกต. รับฟังคำให้การของพยานทั้ง 4-5 คน ที่กลับคำให้การ ผมคิดว่า มีเหตุผลที่ผมจะฟ้อง กกต.แล้ว

แต่สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้อง ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่สอบสวนของ กกต. ได้เดินทางมาขอโทษผมถึงบ้าน ขออภัยที่ทำให้พยานกลับคำ และ เดินทางไปสอบพยานใหม่ถึงบ้าน แต่ผมไม่ควรนำเหตุผลของพนักงานสอบสวนของ กกต.มากล่าวในที่นี้ว่าเขาทำไปเพราะอะไร ผมอโหสิให้แล้ว

ผมจึงเตือน ทนายอั๋น และ สว.สำรอง ว่า อย่าคิดว่า พยานที่กลับคำจะไม่มีน้ำหนัก เพราะเรื่องแบบนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เขาเรียกว่า “บุรีรัมย์โมเดล” ซึ่ง“บุรีรัมย์โมเดล” แผ่รังสีไปทั่วประเทศและครอบคลุมทุกวงการ/