ร.อ.สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากน้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคกลาง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยต่อลูกจ้างและนายจ้างทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการมีมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างกรณีที่พักอาศัยน้ำท่วมไม่สามารถไปทำงานได้
ทั้งนี้ ทันทีที่ได้รับข้อสั่งการ กรมฯ จึงได้เร่งดำเนินการออกประกาศ "ขอความร่วมมือช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ" โดยขอให้นายจ้างผ่อนผันให้ลูกจ้างที่ไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ หรือมาทำงานสาย เนื่องจากที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบ สามารถหยุดงานได้โดยไม่ถือเป็นวันลา ตลอดจนขอให้นายจ้างเตรียมแผนฉุกเฉิน ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร เครื่องจักร และระบบไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเกิดภัยพิบัติ และที่สำคัญขอให้นายจ้าง ลูกจ้าง และองค์กรแรงงาน ปรึกษาหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักสุจริตใจระหว่างกัน
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดเตรียมโครงการ "เงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ" โดยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ สามารถยื่นคำขอกู้เงินจากกองทุนฯ ได้สูงสุดถึงสหกรณ์ละ 20 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 2.00% ต่อปี เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้ลูกจ้างใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูอาชีพที่เสียหายหลังประสบภัย
ทั้งนี้ ได้กำชับพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย และพื้นที่ใกล้เคียง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำแนะนำข้อกฎหมายและช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้างอย่างเต็มที่