xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกฯ นำ ครม.ลงพื้นที่ปัตตานี-ยะลา รับฟังปัญหาเกษตรกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ (8 พ.ย.) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีและยะลา เพื่อพบปะประชาชน รับฟังปัญหาเกษตรกรในพื้นที่ และมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนางานภาครัฐในพื้นที่ชายแดนใต้

โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้บริหารกรมชลประทาน ได้แก่ นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน นายสุพัฒน์ ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 นายฐิติกร ศรีนิติวรวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 16 นายสิริพล รักษนาเวศ ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง นายทวีวัฒน์ สืบสุขมั่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา นายสิทธิพร พฤฒิพิบูลธรรม เลขานุการกรม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

คณะได้พบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาเชิงลึกด้านเกษตร การศึกษา การท่องเที่ยว และสวัสดิการสังคม พร้อมทั้งกำชับการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้อย่างเป็นรูปธรรม

ด้านกรมชลประทานได้จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อมนำเสนอแนวทางการบรรเทาอุทกภัย การเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และการเฝ้าระวังแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในจังหวัดปัตตานีและยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดยะลา รองนายกฯ ธรรมนัส ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมชลประทาน (โครงการชลประทานยะลา) จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาระบบบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ (ลุ่มน้ำปัตตานีและลุ่มน้ำสายบุรี) รวมถึงการจัดทำแผนขุดลอกลำน้ำในพื้นที่ โดยให้เร่งพิจารณาจัดทำแนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม