xs
xsm
sm
md
lg

"ดร.สามารถ'ชี้ถึงเวลาต้องมีระบบป้องกันภัยสแกมระดับชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte” ระบุว่า คนไทยต้องไม่ถูกสแกม!

“สแกม” คืออาชญากรรมยุคดิจิทัลที่เติบโตเร็วมาก สร้างความเสียหายนับหมื่นล้านบาทต่อปี ไม่เพียงแต่กระทบต่อกระเป๋าเงินของประชาชนเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอีกด้วย

1. จาก “โทรหลอก” ถึง “AI หลอก”

ยุคแรกของการสแกมเริ่มจาก “โทรหลอก - ส่ง SMS – ทักแชทปลอม” แต่วันนี้พัฒนามาเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ชั้นสูงด้วยเทคโนโลยี “Deepfake & AI Scam” ที่สมจริงจนยากจะแยกแยะ

ตัวอย่างภัยใกล้ตัว

(1) ปลอมเป็นพนักงานธนาคาร โทรแจ้งว่าบัญชีของคุณมีปัญหา หลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
(2) ส่งข้อความแจ้งว่าคุณมีพัสดุรอรับ หรือคุณได้รับรางวัล พร้อมส่งลิงก์ให้กดเพื่อขโมยข้อมูล
(3) โทรหลอกลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนสูง หรือชวนเข้าร่วมธุรกิจแชร์ลูกโซ่
(4) ใช้เทคโนโลยี AI ปลอมเสียงคนใกล้ชิด หรือสร้างหน้าเหมือนกันเป๊ะ! ขอเงินด่วนแบบแนบเนียน
(5) สร้างเว็บไซต์ธนาคารหน้าตาเหมือนของจริงทุกอย่าง เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต

ไม่ว่าคุณจะรู้เท่าทันแค่ไหน... แค่พลาด “เพียงครั้งเดียว” ก็อาจหมดตัวได้ภายในไม่กี่นาที

2. ทำไมคนไทยจึงยังถูกหลอกซ้ำๆ?

เพราะเรายังไม่มีระบบตรวจสอบอัตโนมัติว่าเบอร์หรือบัญชีที่ติดต่อมานั้นเป็น “ของจริงหรือของปลอม” ไม่มีระบบเตือนภัยแบบเรียลไทม์ที่แจ้งเตือนประชาชนได้ทันก่อนเกิดความเสียหาย และเมื่อหลงเชื่อ โอกาสได้เงินคืนแทบเป็นศูนย์

3. แล้วทำไมภาครัฐจึงยังสกัดไม่อยู่?

(1) หน่วยงานทำงานแยกกัน ไม่มี “ศูนย์บัญชาการกลาง (Command Center)”
(2) ข้อมูลกระจัดกระจาย ไม่มีฐานข้อมูลกลางแห่งชาติ
(3) การตอบโต้ช้า ทั้งการอายัดบัญชีและปิดเบอร์โทร ต้องใช้เวลาหลายวัน
(4) เครื่องมือและบุคลากรด้านไซเบอร์ยังมีไม่เพียงพอ
(5) ประชาชนไม่รู้จะแจ้งเหตุที่ไหน ไม่มีช่องทางเดียวที่เข้าถึงได้ง่าย

4. ถึงเวลาต้องมี “ศูนย์บัญชาการต่อต้านภัยสแกมแห่งชาติ”

ควรมีการจัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการต่อต้านภัยสแกมแห่งชาติ (National Anti-Scam Command หรือ NASC)” ที่มีบทบาทในการปกป้องคนไทยไม่ให้ถูกสแกม หรือ เป็น “เกราะดิจิทัลแห่งชาติ” ที่รวมทุกภาคส่วนไว้ในที่เดียว เพื่อหยุดภัยสแกมแบบเรียลไทม์

บทบาทหลักของ NASC

(1) เชื่อมโยงข้อมูลจากธนาคาร บริษัทโทรคมนาคม และตำรวจ
(2) ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ตรวจจับ “เสียง-ข้อความ” ปลอม
(3) ส่งสัญญาณเตือนภัยถึงมือประชาชนทันทีผ่าน “NASC Alert” เพื่อให้รู้ตัวก่อนตกเป็นเหยื่อ
(4) สั่งอายัดบัญชี หรือปิดเบอร์โทรศัพท์โดยอัตโนมัติ ด้วยระบบ SOAR (Security Orchestration, Automation, and Response หรือ ระบบประสานงาน และตอบโต้ภัยไซเบอร์แบบอัตโนมัติ)

5. จัดการได้ใน 5 นาที

หากมี NASC ระบบจะสามารถจัดการภัยสแกมได้ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที จากเดิมต้องใช้เวลาหลายวัน ประชาชนจะได้รับการคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง และคาดว่าจะลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 70%

“ภัยสแกม” ไม่เลือกเหยื่อ ไม่เลือกอาชีพ ไม่เลือกอายุ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีระบบป้องกันและตอบโต้ภัยหลอกลวงระดับชาติ เพราะคนไทยทุกคน... ไม่ควรถูกหลอกอีกต่อไป