นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแม่เหล็กกำลังสูงมูลค่า 600 ล้านริงกิต หรือ 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรัฐปะหัง จะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมแร่หายากของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวคืบหน้าไปไกลกว่าบันทึกความเข้าใจ (MOU) แล้ว เนื่องจากบริษัท JS Link จากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุน ได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินและพร้อมเริ่มปฏิบัติการแล้ว ขั้นตอนจากนี้คือการเร่งรัดกระบวนการ
สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานคำกล่าวของอันวาร์ เพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าจะกำกับดูแลโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับการแปรรูปแร่หายาก
โครงการนี้เกิดจากข้อตกลงที่ลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ระหว่างบริษัท Lynas Rare Earths จากออสเตรเลีย กับบริษัท JS Link จากเกาหลีใต้ เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตแม่เหล็กนีโอไดเมียม กำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี โดยโรงงานจะตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานวัสดุขั้นสูงของ Lynas ในเขตกว่านตัน
ผู้นำมาเลเซียเน้นย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของประเทศในอุตสาหกรรมวัสดุขั้นสูงและเทคโนโลยีสะอาด พร้อมทั้งสนับสนุนการสร้างห่วงโซ่อุปทานแร่หายาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า และเซมิคอนดักเตอร์ ตลอดจนยุทโธปกรณ์
ปัจจุบัน มาเลเซียมีปริมาณแร่หายากสำรองประมาณ 16.1 ล้านเมตริกตัน แต่ยังขาดเทคโนโลยีในการทำเหมืองและแปรรูป รัฐบาลจึงกำลังเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จำเป็น โดยมีรายงานว่ากำลังเจรจากับจีนในประเด็นการแปรรูป และเพิ่งลงนามข้อตกลงกับสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อกระจายความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ
                    

