xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-กัมพูชาเห็นพ้องตั้งคณะทำงานร่วมปราบปรามสแกมเมอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติว่า​ วานนี้ (23 ต.ค.)​ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (GBC) ไทย–กัมพูชา เพื่อหารือแนวทางยุติและแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนร่วมประชุมและประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชา โดยฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอสำคัญเกี่ยวกับการปราบปรามเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งเบื้องต้นทางการกัมพูชาได้ตอบรับและตกลงจัดตั้ง "คณะทำงานร่วมไทย–กัมพูชา" เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองและปฏิบัติการร่วมในการสกัดกั้นกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เหล่านี้

ส่วนกรณีที่ทางการเมียนมาดำเนินการปราบปราม "เคเคปาร์ค" แหล่งกบดานของแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ และมีบางส่วนหลบหนีเข้ามาในฝั่งไทย ว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา และ พล.ต.ท.จิรภพ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการคัดแยกผู้หลบหนีว่าเข้าข่าย "เหยื่อค้ามนุษย์" หรือเป็นผู้ร่วมขบวนการ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าในพื้นที่ทำหน้าที่ประสานงานหลัก ภายใต้การกำกับของกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ได้จัดกำลังจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์​ หรือ​ ปคม. และตำรวจไซเบอร์ร่วมลงพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลและตรวจสอบประวัติผู้หลบหนีอย่างละเอียด จากข้อมูลเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีคนไทยหลบหนีจากเคเคปาร์คกลับมาในรอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนมากที่สุด รองลงมาคือชาวอินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งทำงานเป็นแรงงานสแกมเมอร์ หลอกลวงเหยื่อที่มีสัญชาติเดียวกันในระบบข้ามชาติ

ส่วนกรณีสื่อเกาหลีใต้รายงานว่าขบวนการสแกมเมอร์ชาวเกาหลีใต้บางกลุ่มได้ย้ายฐานปฏิบัติการเข้ามาในประเทศไทยนั้น พล.ต.ท..ไตรรงค์ ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน พร้อมยืนยันว่า การตั้งฐานถาวรในไทยเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตำรวจมีมาตรการเข้มงวดและสามารถตรวจจับได้ง่ายกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน​ ยืนยันไทยจริงจังกับการสืบสวน–ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาโดยตลอด ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าตำรวจไทยไม่ปล่อยปละละเลย และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำผิดทุกกลุ่ม