xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมควักกระเป๋า! กทม.ขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สุดสายไม่เกิน 65 จาก 62 บาท เริ่ม 1 พ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยายทั้งสามช่วง ได้แก่ หมอชิต–คูคต, บางจาก–สมุทรปราการ และโพธิ์นิมิตร–บางหว้า โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครดูแลการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) รวม 36 สถานี ระยะทาง 44 กิโลเมตร การปรับอัตราค่าโดยสารครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนจากอัตราเดิม 15 บาทตลอดสาย มาเป็นโครงสร้าง "ค่าโดยสารตามระยะทาง" (Distance Fare) เพื่อให้สะท้อนต้นทุนการให้บริการที่แท้จริง และรักษาความมั่นคงของระบบขนส่งมวลชนในระยะยาว

สำหรับอัตราใหม่ การเดินทางภายในส่วนต่อขยายจะเริ่มต้นที่ 17 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทางไม่เกิน 45 บาท ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางข้ามช่วงระหว่างส่วนสัมปทานและส่วนต่อขยาย ค่าโดยสารรวมสูงสุดไม่เกิน 65 บาท (เพิ่มจากปัจจุบันเพียง 3 บาท) ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าค่าโดยสารเฉลี่ยของระบบรถไฟฟ้าในเมืองใหญ่ทั่วโลก

ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายเพียง 15 บาทตลอดสาย ซึ่งไม่สอดคล้องกับต้นทุนค่าจ้างเดินรถ และค่าบำรุงรักษา ทำให้กรุงเทพมหานครต้องแบกรับค่าใช้จ่ายและใช้งบประมาณสนับสนุนชดเชยส่วนต่างปีละกว่า 6,000 ล้านบาท โดยรายได้จากการเดินรถในส่วนต่อขยายอยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาทต่อปี ขณะที่รายจ่ายรวมสูงถึง 9,012 ล้านบาท การปรับโครงสร้างค่าโดยสารในครั้งนี้จึงมีความจำเป็น เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนของเมืองสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้จัดมาตรการบรรเทาและช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ได้แก่ เด็กและนักศึกษา (อายุไม่เกิน 23 ปี) ลดค่าโดยสาร 30% และผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ลดค่าโดยสาร 50%

ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหลัก คือผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะในส่วนต่อขยาย ซึ่งค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้น 2–30 บาทตามระยะทาง ส่วนผู้โดยสารที่ใช้เฉพาะส่วนสัมปทานเดิมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง