xs
xsm
sm
md
lg

"จตุพร-หมอวรงค์"ประสานเสียงลั่น! ถึงเวลาไทยต้องยกเลิก MOU 43-44 แบบฝ่ายเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่วมแถลงข่าวในนามกลุ่ม "รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย" โดยระบุถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และ MOU 43–44 ว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการรักษาอธิปไตยทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะ MOU 43 ที่อาจกลายเป็นหลุมพรางทางกฎหมาย ทำให้ไทยเสี่ยงสูญเสียดินแดน

นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดสองสถานการณ์คู่ขนานคือ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนวันที่ 26–27 ตุลาคม ที่มาเลเซีย ซึ่งมีข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเข้าร่วมเพื่อร่วมลงนามข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur Accord) โดยฝ่ายไทยมีเงื่อนไข 4 ข้อ ได้แก่ การจัดการกับทุ่นระเบิด การถอนกำลังทหาร การเคลื่อนย้ายประชาชนบริเวณชายแดน และการปราบปรามสแกมเมอร์ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการลดความตึงเครียด ไม่ใช่การแก้ปัญหา MOU 43 โดยตรง

นายแพทย์วรงค์ กล่าวด้วยว่า แม้จะมีการลงนามสันติภาพ ก็ไม่ได้หมายความว่า MOU 43 จะสิ้นสุดลง ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนยังคงอยู่ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้กลับเป็นโอกาส เพราะเขมรกำลังละเมิดอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน ทั้งการยิงและใช้กำลังในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว สิ่งนี้เข้าข่ายเป็นเหตุผลตามอนุสัญญาเวียนนา ที่เปิดทางให้ไทยสามารถยกเลิก MOU 43 แบบฝ่ายเดียวได้ทันที หากมีการแจ้งล่วงหน้า 3 เดือน

พร้อมกันนี้ ได้เตือนรัฐบาลไม่ให้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 21–22 ตุลาคม เนื่องจากหากมีการประชุม เท่ากับฝ่ายไทยยอมรับว่าความสัมพันธ์ยังดำเนินตามปกติ ซึ่งจะทำให้เงื่อนไขในการยกเลิก MOU 43 หมดไป ถ้ามีการประชุม JBC แปลว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศยังต้องการรักษา MOU 43 เอาไว้ ซึ่งเท่ากับยอมให้ประเทศไทยเสียดินแดนโดยปริยาย

ขณะเดียวกัน นายแพทย์วรงค์ ยืนยันว่า กลุ่มรวมพลังแผ่นดินไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะทำประชามติยกเลิก MOU 43–44 เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจรัฐบาลโดยตรง รัฐบาลต้องตัดสินใจยกเลิกเอง ไม่ใช่โยนให้ประชาชนไปลงประชามติในสิ่งที่เข้าใจยากและซับซ้อนทางกฎหมายระหว่างประเทศ

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วม นปช. กล่าวว่า ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาสะสมมายาวนาน กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ ทั้งที่กองกำลังชายแดนรายงานว่ามีการละเมิดจากกัมพูชามากกว่า 600 ครั้ง แต่กลับเก็บเงียบ นี่คือสิ่งที่ประชาชนควรได้รู้ เพราะทุกครั้งที่ถูกละเมิด ฝ่ายไทยเพียงส่งหนังสือประท้วงเงียบๆ ไปยังกัมพูชา ไม่เคยนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 20 ตุลาคมงนี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มรวมพลังฯ จะรวมตัวกันที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลยกเลิกการประชุม JBC ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21–22 ตุลาคม และแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการคงสถานะ MOU ทั้งสองฉบับไว้ หากรัฐบาลยังยืนยันจัดประชุม JBC เท่ากับยอมเดินตามเกมต่างชาติ ยอมเสียเกียรติภูมิของชาติให้ถูกย่ำยี

ขณะเดียวกัน นายจตุพร กล่าวถึงกระแสข่าวสมเด็จฮุน เซน ขู่ตอบโต้หากไทยไม่เปิดด่านในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยต้องมีท่าทีเด็ดขาด พร้อมเร่งผลักดันผู้กัมพูชาที่รุกล้ำเข้าเขตไทยออกจากพื้นที่อย่างจริงจัง ปัญหาที่หนองจาน–หนองหญ้าแก้ว ต้องแก้อย่างเบ็ดเสร็จ หากปล่อยอีก ประเทศจะกลายเป็นผู้เสียเปรียบตลอดไป