นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้อนุญาตให้ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ โซนเสือโคร่ง 1 และโซนเสือโคร่ง 2 ส่วนโซนสิงโตเปิด เฉพาะในรูปแบบขับรถชมผ่าน (Drive-through) ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด โดยยังไม่มีการปล่อยสิงโตเข้าในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าจะผ่านการประเมินพฤติกรรมจากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าอย่างละเอียด
การอนุญาตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอของกรมอุทยานฯ ทั้งในด้านความปลอดภัย สวัสดิภาพสัตว์ และการบริหารจัดการพื้นที่ โดยเฉพาะ การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ครอบคลุมจุดสำคัญทั้งหมด เพื่อเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน การสร้างรั้วกั้นนิรภัยสองชั้นและปรับแนวกั้นเขตพื้นที่จัดแสดง เพื่อป้องกันสัตว์ออกนอกโซน ปรับปรุงเส้นทางขับรถชมสัตว์และจุดพักรถ ให้เหมาะสม ปลอดภัยต่อทั้งสัตว์และนักท่องเที่ยว อบรมเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย เพิ่มความรู้ด้านพฤติกรรมสัตว์และการจัดการเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งจัดทำและซ้อมแผนเผชิญเหตุ (Emergency & Safari Safety Plan) ครอบคลุมทุกสถานการณ์
สำหรับสิงโตที่อยู่ในโซนปรับพฤติกรรม (Behavioral Adjustment Zone) นายอรรถพลเปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งให้บริษัท ดำเนินการปรับพฤติกรรมสัตว์ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าเท่านั้น โดยจะต้องประเมินพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าสิงโตไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือเสี่ยงต่อการทำร้ายมนุษย์ จึงจะสามารถพิจารณาอนุญาตให้เข้าสู่พื้นที่จัดแสดงจริงได้ในลำดับต่อไป
อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า การดำเนินงานทั้งหมดของซาฟารีเวิลด์ต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติสวนสัตว์และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และหลักสวัสดิภาพสัตว์สากล เพื่อให้สวนสัตว์สามารถเปิดให้บริการได้อย่างปลอดภัยทั้งต่อสัตว์ เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว
ด้านบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ออกประกาศแจ้งว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะเปิดให้บริการ "โซนสัตว์นักล่า (โซนเสือ)" ภายในสวนสัตว์เปิด Safari Park อีกครั้ง ตามคำสั่งอนุญาตของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมทั้งกลับมาเปิดให้บริการกิจกรรมยอดนิยม Safari Feeding (ให้อาหารเสือและฮิปโป) ตามปกติ โดยบริษัทขอขอบพระคุณนักท่องเที่ยวทุกท่านที่ให้การสนับสนุน และขอต้อนรับกลับมาเยี่ยมชมอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง