xs
xsm
sm
md
lg

สว.นพดล ชี้กลไกสภาฯ ยังศึกษา MOU 43-44 ยันเป็นกลางยึดผลประโยชน์ชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายนพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวถึงความคืบหน้าในการศึกษา MOU 2543-2544 ว่า เมื่อวันที่ 9-10 ต.ค. ที่ผ่านมา กมธ.ได้ลงพื้นที่ จ.ตราด ไปดูหลักหมุดของเขตไทย-กัมพูชาที่ 73 ซึ่งเป็นหลักมุดสุดท้าย อยู่บนพื้นที่ No man land โดย กมธ. ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากจากนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เช่น ข้อมูลการละเมิดของฝั่งกัมพูชาที่ จ.จันทบุรีและตราด หลายครั้ง ฝ่ายไทยประท้วงไปหลายครั้ง ในครั้งนี้ กมธ. ได้ไปสุดชายแดน ซึ่งได้รับรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชายังไม่อยากยอมรับหลักหมุดที่ 73 ของเรา และพยายามจะเลื่อนมาทางฝั่งไทย นอกจากนี้ หลักหมุดที่ 72 ก็สูญหายไป ต้องใช้หลักหมุดชั่วคราวไป

นายนพดล กล่าวอีกว่า หากกรรมาธิการไม่มา จะไม่รู้เลยว่ากัมพูชาละเมิดกี่ครั้ง สถานการณ์เป็นอย่างไร ตอนนี้ตนให้นำข้อมูลการละเมิดทั้งหมด รวมถึงหลังประท้วงได้แก้ไขหรือไม่ เข้าสู่ที่ประชุมแล้ว

ส่วนที่มีการถกเถียงว่าควรยกเลิก MOU 2543-2544 หรือไม่นั้น นายนพดล กล่าวว่า ประชาชนยังขาดข้อมูลอยู่ โดยในปี ค.ศ. 1909-1910 หลังจาก 3 ปีที่ไทยได้จันทบุรีและตราดคืนมาแล้ว ตอนนั้นก็มีการปักหลักไม้เกิดขึ้นตลอดแนวแล้ว หลังจากนั้น 10 ปี  ก็มีการปักหลักปูน ที่สำคัญ ในปี 2538 ช่วงที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ไปเจรจากับกัมพูชา แล้วตั้งคณะกรรมการ GBC และ RBC หลังจากนั้น จึงเกิด JBC ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดก่อน MOU 2543-2544 มองว่า ไม่ว่าจะมี MOU 2543-2544 หรือไม่ ก็มีคณะกรรมการเหล่านี้อยู่ดีที่รองรับได้