xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าคงอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนกันยายน 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 22-30กันยายน 2568) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3เดือนข้างหน้าคงอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง ที่ระดับ 153.62 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อวินัยการคลังรองลงมาคือสถานการณ์การนำเข้าและส่งออก และสถานการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนกันยายน 2568 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้

- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2568) อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" (ช่วงค่าดัชนี 120-159) ที่ระดับ153.62

- ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่และนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรงอย่างมาก"

- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพาณิชย์(COMM)

- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดสื่อสิ่งพิมพ์ (MEDIA)

- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือความกังวลต่อวินัยการคลัง

ผลสำรวจ ณ เดือนกันยายน 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับเพิ่ม 35.4% อยู่ที่ระดับ 130.69 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับเพิ่ม 19.7% อยู่ที่ระดับ 155.56 อยู่ที่ระดับ 87.33 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่ม 28.2% อยู่ที่ระดับ 166.67 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศปรับเพิ่ม25.0% อยู่ที่ระดับ 166.67

ตลอดเดือนกันยายน 2568 ดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่ FED ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% รวมถึง ความชัดเจนและแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ และคำเตือนของ Fitch ที่ได้ปรับลดมุมมอง Outlook ของประเทศไทยจาก "Stable" เป็น "Negative" สร้างความกังวลต่อนโยบายทางการเงินและเสถียรภาพงบประมาณของรัฐ โดย SET Index ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ปิดที่ 1,274.17 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.46% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 43,028 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11,859 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิรวม 96,243 ล้านบาท

ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ นโยบายการเงินของเฟด หากมีการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะหนุนสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย การชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมส่งออกของยุโรป ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังธนาคารแห่งชาติจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารกว่า 5 แสนล้านหยวนผ่าน Reverse Repo อายุ 7 วัน และ 14 วัน และความผันผวนของราคาทองในตลาดโลก ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และความชัดเจนในการแถลงงบประมาณประจำปีที่จะมีผลต่อการประเมินความเสี่ยงเครดิตและความเชื่อมั่นนักลงทุน และความผันผวนของค่าเงินบาทซึ่งกดดันกลุ่มส่งออก