สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติของอินโดนีเซียเปิดเผยในแถลงการณ์ในวันจันทร์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารเรียนของโรงเรียนประจำสอนศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 ราย ส่วนอีก 13 คน ยังสูญหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เก็บกวาดเศษซากปรักหักพังเกือบหมดแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกองคอนกรีตได้ถล่มลงมาทับนักเรียนชายหลายร้อยคนภายในโรงเรียนอัล โคซินี (Al Khoziny) ในเมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ส่งผลให้มีผู้ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แถลงการณ์ของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ ระบุว่า เมื่อช่วงดึกของวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้รถขุดในการเก็บกวาดเศษซากอาคารไปได้ร้อยละ 80% และพบชิ้นส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น พร้อมเสริมว่าการค้นหาผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป
เจ้าหน้าที่ระบุว่า สาเหตุของการถล่มครั้งนี้เกิดจากฐานรากของโรงเรียนไม่สามารถรองรับการก่อสร้างที่กำลังดำเนินอยู่บนชั้นบนของอาคารได้
ข้อมูลจากกระทรวงกิจการศาสนาของอินโดนีเซียระบุว่า ทั่วประเทศอินโดนีเซียมีโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม หรือที่รู้จักในท้องถิ่นว่า เปอซันเตร็น (pesantren) อยู่ราว 42,000 แห่ง สื่อท้องถิ่นอ้างคำพูดนายโดดี ฮังโกโด รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการ ที่กล่าวในวันอาทิตย์ว่า มีโรงเรียนเปอซันเตร็นเพียง 50 แห่ง เท่านั้นที่มีใบอนุญาตก่อสร้าง และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า โรงเรียนอัล โคซินี มีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่