นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ประจำเดือนกันยายน 2568 ติดลบร้อยละ -0.72 เดือนกันยายน 2568 เท่ากับ 100.11 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2567 เท่ากับ 100.84 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงร้อยละ 0.72 (YoY) ปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของภาครัฐ และราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาสินค้าสำคัญ ในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด
สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.65 (YoY) ชะลอลงจากเดือนสิงหาคม 2568 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.81 (YoY) แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณ ปัญหาเงินฝืด เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัว การจ้างงานยังอยู่ในระดับดี แต่ยังต้องระวัง และจับตาอย่างใกล้ชิด คาดว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาส 4 ยังอยู่ในระดับต่ำร้อยละ 0 แม้มาตรการรัฐบาลชุดใหม่ "คนละครึ่ง" และมาตรการเร่งรัดส่วนราชการ เบิกจ่ายงบลงทุนและการใช้จ่ายด้านต่าง ๆ แต่ยังไม่ดึงให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากนัก แต่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย จึงทำให้เงินเฟ้ออาจทยอยเพิ่มขึ้นภายหลังอีกระยะหนึ่ง รวมทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2568 ประมาณร้อยละ 0 จากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทิศทางน้ำมันดิบดูไบไม่สูงมากนัก จากกลุ่มโอเปคพลัส เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ผลผลิตผลไม้ สินค้าทางการเกษตร ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ราคาลดลง กดดันเงินเฟ้อต่ำต่อเนื่อง รวมถึงเงินบาทแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันถูกลง ต้นทุนการผลิต ต้นทุนค่าครองชีพถูกลง ภาครัฐ ช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพ ด้วยการปรับลดค่า Ft งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย