รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า ปัจจัยที่น่ากังวลคือ ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ผ่านนครสวรรค์ จะอยู่ที่ประมาณ 60% ของปี 2554 แต่หลายพื้นที่ท่วมหนัก จากการกีดขวางทางไหลของน้ำ ทำให้น้ำท่วมเฉียบพลัน โดยเฉพาะในแม่น้ำเจ้าพระยา การก่อสร้างพนังกั้นน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างกีดขวาง มากเกินไป
รศ.ดร.เสรี ชี้ว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังวิกฤตหนัก จากการรับน้ำปริมาณมหาศาล และคาดการณ์ว่าการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ระดับ 2,500-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำเช่น บางบาล ต้องเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก โดยน้ำจะเริ่มลดลงให้เห็นผลกระทบประมาณ 30 วันนับจากวันปล่อยน้ำ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จากอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงที่สุดในช่วงวันที่ 9-10 ตุลาคม 2568 นี้ พื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ อำเภอเมือง, สามโคก จ.ปทุมธานี และ อำเภอปากเกร็ด, อำเภอเมือง จ.นนทบุรี โดยส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา
รศ.ดร.เสรี ย้ำว่า ปัญหาเหล่านี้จะเกิดซ้ำในทุกปี หากไม่มีการแก้ไขที่ถูกจุด เพราะการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ในปัจจุบันนั้นเหมือนเป็นการไปแย่งที่น้ำอยู่ แนะว่ารัฐบาลจะต้องมีการกำหนดเกณฑ์การควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านนครสวรรค์ให้ชัดเจน และต้องเร่งหาพื้นที่รับน้ำถาวร หรือการทำแก้มลิงถาวรก่อนถึงนครสวรรค์ให้ได้มากที่สุด โดยอาจเวนคืนที่ดินเพื่อซื้อมาเป็นพื้นที่รับน้ำของรัฐ เพราะปัจจุบันรัฐบาลไม่มีพื้นที่รับน้ำของตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ระบบการตัดสินใจอัตโนมัติ เช่น AI หรือเทคโนโลยี เข้ามาบริหารจัดการแทนคน เนื่องจากปัจจุบันการสร้างคันกั้นน้ำและการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการคาดการณ์แทบจะใช้ไม่ได้ผล
ส่วนเรื่องพายุแมตโม รศ.ดร.เสรี ชี้ว่าไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบหนักต่อประเทศไทยโดยตรง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นและน้ำหนุนสูง