xs
xsm
sm
md
lg

TDRI เตือนรัฐใช้งบ "คนละครึ่งพลัส" ให้ตรงจุดและคุ้มค่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ว่า แม้โครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศได้ในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันประสิทธิภาพของโครงการเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุไม่ได้อยู่ที่ตัวนโยบาย หากแต่อยู่ที่โครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ภาวะเงินหมุนเวียนชะลอตัว ทำให้เม็ดเงินที่อัดฉีดผ่านโครงการไม่สามารถส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจได้เต็มที่

นายนณริฏ กล่าวว่า ในมุมของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายลักษณะนี้ ภาครัฐควรจำกัดวงเงินโครงการไม่ให้ขยายใหญ่เกินความจำเป็น เพราะอาจเกิดภาระงบประมาณโดยไม่คุ้มค่า ซึ่งมองวงเงินที่ใช้ในโครงการนี้ จากที่รัฐบาลประกาศมา ราว 44,000-60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้งบที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องระวังคือ การใช้สิทธิของประชาชนในโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาของ โครงการคนละครึ่ง ยุคแรกๆ พบว่ามีผู้ได้รับสิทธิแต่ไม่นำไปใช้จริงในสัดส่วนที่สูง หากเกิดกรณีเช่นนี้ต่อไป จะทำให้เงินที่จัดสรรไว้ไม่เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และกลายเป็นการใช้งบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ โดยงบประมาณของรัฐมีจำกัด หากเปิดโครงการแล้วคนไม่ใช้ สิทธินั้นก็จะสูญเปล่า เงินที่ควรนำไปหมุนในระบบเศรษฐกิจจะถูกพักไว้โดยไม่มีผลใดๆ พร้อมเสนอว่า รัฐควรออกแบบนโยบายให้เหมาะสมกับศักยภาพของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ควรพิจารณาปรับสัดส่วนการสนับสนุนให้เหมาะสม เพื่อให้มาตรการบรรลุเป้าหมายได้จริง

นายนณริฏ กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกแบบโครงการในภาวะงบประมาณจำกัด จำเป็นต้องเน้นความคุ้มค่าและตรงจุด ให้ทุกบาทที่ใช้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการได้อย่างแท้จริง โดยเห็นว่าหากรัฐต้องการให้ "คนละครึ่งพลัส" เป็นนโยบายที่ยังตอบโจทย์สังคม ควรให้ความสำคัญกับการออกแบบเชิงกลยุทธ์มากกว่าการขยายงบประมาณ