จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมกำลังแรงจากอิทธิพลของพายุ "บัวลอย" ซึ่งมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอน้ำปาด อำเภอท่าปลา อำเภอทองแสนขันขัน อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และอำเภอตรอน รวม 5 อำเภอ 19 ตำบล 151 หมู่บ้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 00.15 น.) ดังนี้
1) อำเภอน้ำปาด ได้รับผลกระทบรวม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลน้ำไผ่ ตำบลน้ำไคร้ และตำบลแสนตอ รวม 19 หมู่บ้าน 900 ครัวเรือน มีผู้สูญหาย 5 ราย ถนนได้รับความเสียหาย 2 สาย สะพานชำรุด 6 แห่ง
2) อำเภอท่าปลา ได้รับผลกระทบรวม 7 ตำบล ได้แก่ ตำบลจริม ตำบลผาเลือด ตำบลท่าปลา ตำบลน้ำหมัน ตำบลร่วมจิต ตำบลหาดล้า และตำบลนางพญา รวม 72 หมู่บ้าน 904 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถนนเสียหาย 1 สาย
3) อำเภอทองแสนขัน ได้รับผลกระทบรวม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลผักขวง ตำบลบ่อทอง ตำบลป่าคาย และตำบลน้ำพี้ รวม 44 หมู่บ้าน 2,500 ครัวเรือน พืเนที่การเกษตรเสียหาย 5,800 ไร่ ถนนเสียหาย 5 สาย สะพานชำรุด 3 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง
4) อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบรวม 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลหาดงิ้ว ตำบลถ้ำฉลอง ตำบลแสนตอ ตำบลบ้านด่าน และตำบลบ้านด่านนาขาม รวม 16 หมู่บ้าน 252 ครัวเรือน
5) อำเภอตรอน อยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย
ทั้งนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดอุตรดิตถ์ และสำนักงาน สกสค.จังหวัดอุตรดิตถ์ นำโดยนางอัญชลี วัฒนาสกุลเกียรติ ศึกษาธิการจังหวัดอุตรดิตถ์ และรักษาการผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่อำเภอทองแสนขันในวันพุธที่ 1 ตุลาคม 2568 เพื่อเยี่ยมเยียนและมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคแก่ผู้ประสบภัย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการครู ครูบำนาญ และบุคลากรทางการศึกษาที่บ้านเรือนหรือทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหาย ไม่รวมที่ดิน ไร่นา และสัตว์เลี้ยง โดยสามารถยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงาน สกสค.จังหวัดอุตรดิตถ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้านการคมนาคม แขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 2 ได้แนะนำเส้นทางที่ปลอดภัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง โดยสามารถใช้เส้นทางจากอุตรดิตถ์ – น้ำปาด – ฟากท่า – บ้านโคก ได้ตามปกติ ผ่านทางหลวงหมายเลข 1045 (วังสีสูบ – เขื่อนสิริกิติ์) ถึงบริเวณแยกสักใหญ่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ซึ่งสามารถสัญจรไปยังอำเภอน้ำปาด ฟากท่า และบ้านโคกได้
ในส่วนของโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ได้ออกมาชี้แจงกระแสข่าวเกี่ยวกับฝายห้วยแมง โดยระบุว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ เมื่อเวลา 06.00 น. มีน้ำไหลผ่าน 460 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และลดลงเหลือ 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในเวลา 15.00 น. หากไม่มีฝนตกเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 36 ชั่วโมง ส่วนอ่างเก็บน้ำน้ำไผ่ที่ถูกกล่าวถึง แท้จริงคืออ่างเก็บน้ำบ้านเพียที่สร้างเมื่อปี 2527 ซึ่งปัจจุบันชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่เกี่ยวข้องกับฝายห้วยแมง จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น
ด้านกองทัพบก โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.35 ร่วมกับโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ได้จัดกำลังพล 29 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ ได้แก่ เรือยาง 3 ลำ รถบรรทุก และอุปกรณ์สนับสนุน ลงพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 12 ตำบลทองแสนขัน เพื่อช่วยเหลือและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมได้รับการสนับสนุนอาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย พร้อมกันนี้ กำลังพลจิตอาสาพระราชทานและยุทโธปกรณ์ของหน่วย ร่วมกับส่วนราชการอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ประสบปัญหาจากเหตุพายุโซนร้อน “บัวลอย” ส่งผลให้ระดับน้ำในคูคลองเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ทำให้ประชาชนติดอยู่ภายในบ้านเรือนไม่สามารถออกมาได้ ทางหน่วยจึงจัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือโดยด่วน และพาประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย และหน่วยยังได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และประสานผู้นำหมู่บ้าน, ผู้นำชุมชน จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง แจ้งให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือต่อสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้น และทางหน่วยจะประสานกับส่วนราชการอื่นๆ ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่อไป