xs
xsm
sm
md
lg

"บวรศักดิ์" จ่อถก 3 ฝ่ายเร่งแก้ รธน. ยันคนไทยไม่สับสนกาบัตร 4 ใบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและการจัดทำประชามติ ภายหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยย้ำว่า เรื่องนี้รัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีการหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นายบวรศักดิ์ ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรึกษาหารือกับ กกต. พรรคการเมืองในสภา และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันมี 3 ร่างหลัก ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน, และพรรคเพื่อไทย นายบวรศักดิ์ ระบุว่า ทุกพรรคก็อยากให้ใช้ร่างของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องมาเจรจาพูดคุยประนีประนอมจนออกมาให้เป็นที่ยอมรับได้

นอกจากนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผ่านวาระ 3 ได้ ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจาก สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และเสียงจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า 20% ทำให้การหารือร่วมกับ สว. เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน

รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความซับซ้อนของไทม์ไลน์ โดยชี้ว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องทำประชามติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง (ถามเรื่องการจัดทำฉบับใหม่ และเห็นชอบเนื้อหา) ส่วนกำหนดเวลาในการทำประชามติยังไม่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่สภาฯ แก้ไขแล้ว จะมีการลงพระปรมาภิไธยหรือไม่ ซึ่งจะปรับกรอบเวลาการทำประชามติจาก 90-120 วัน เป็น 60-150 วัน

นายบวรศักดิ์ ยืนยันว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดทำประชามติ 2 เรื่อง (แก้รัฐธรรมนูญ และ MOU ไทย-กัมพูชา) พร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อประหยัดงบประมาณ ซึ่ง กกต. ยืนยันว่าสามารถทำได้ เพราะประหยัดงบ หากจัดทำแยกกัน 3 ครั้ง (เลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ MOU) จะใช้งบประมาณรวมกว่า 18,000 ล้านบาท แต่หากจัดทำพร้อมกันจะใช้งบประมาณเพียง 6,000 ล้านบาท

สำหรับการแบ่งบัตร เสนอให้ใช้บัตรเลือกตั้งปกติ ส่วนบัตรประชามติให้ใช้บัตรสีเหลือง พร้อมช่องกา "เห็นชอบ" เป็นสีเขียว และ "ไม่เห็นชอบ" เป็นสีแดง เพื่อป้องกันความสับสน

นายบวรศักดิ์ ย้ำว่า ตนเชื่อว่าคนไทยฉลาดมาก จะไม่สับสนกับบัตร 4 ใบ จำได้ไม่ยาก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน นายบวรศักดิ์ระบุว่า จะกราบเรียนนายกรัฐมนตรีให้ขอความร่วมมือจาก กสทช. เพื่อให้บริษัท อสมท และ ช่อง 11 จัดสรรเวลาให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการยกเลิก MOU สามารถชี้แจงต่อสาธารณชนได้เท่าเทียมกัน ส่วนสื่อโซเชียลนั้น รัฐบาลจะไม่แตะต้องเพราะเป็นเสรีภาพของแต่ละคน