xs
xsm
sm
md
lg

"เทพไท"ซัดนักการเมืองยุคนี้เปิดตัวกับพรรคอื่น ชี้เสียมารยาทไม่มีสปิริต ไม่รู้จักเกรงใจ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ระบุว่า ยังเป็นส.ส.พรรคเดิม แต่เปิดตัวกับพรรคอื่น

แม้ว่าระยะเวลาที่จะเลือกตั้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยืนยันว่า จะปฏิบัติตาม MOA ที่ให้ไว้กับพรรคประชาชนอย่างเคร่งครัด จะไม่มีการเป็นรัฐบาลต่อไปเกิน 121 วันอย่างแน่นอน ดังนั้นอายุของรัฐบาลชุดนี้จะไม่เกิน 120 วัน หรืออยู่ในห้วงเวลาไม่เกิน4เดือน

จึงเห็นนักการเมือง นักเลือกตั้ง พรรคการเมือง มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอย่างคึกคัก นักการเมืองบางคน ละทิ้งหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของประชาชน ไปเคลื่อนไหวหาทางสังกัดพรรคการเมืองใหม่ เป็นพรรคการเมืองที่มีกระแสบ้าง หรือมีกระสุนบ้าง ก็แล้วแต่แนวทางของนักการเมือง หรือนักเลือกตั้งแต่ละคน แต่ที่เห็นอยู่ในขณะนี้นักการเมืองที่เป็น ส.ส.อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีค่างวด มีค่าตัวสูงกว่า ส.ส.สอบตก จึงทำให้มีกระแสดูด กระแสการซื้อตัว ส.ส. มีข้อตกลงกันไว้ล่วงหน้า จนมีบางคนยอมเปิดตัวกับพรรคการเมืองที่จะสังกัดการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งที่พรรคการเมืองเดิมก็ยังสังกัดอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นการเสียมารยาทไม่มีสปิริต และไม่รู้จักเกรงใจประชาชนผู้เลือกตั้งเข้ามา เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2566 ประชาชนเขาเลือกตั้งมาในนามพรรคการเมืองเดิม แต่ยังไม่ทันยุบสภา ก็กลับกลายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่อย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ไม่ต่างอะไรกับคู่สามีภรรยา ที่ยังไม่เลิกรากัน ยังไม่จดทะเบียนหย่าร้างกัน แต่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ไปควงคนรักใหม่อย่างเปิดเผย เยาะเย้ยคนรักเก่าด้วยซ้ำไป

นักการเมืองยุคนี้มักมีพฤติกรรมเช่นนี้ และดูเหมือนสังคมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือดำเนินการใดๆ กลับมองเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เพิกเฉยต่อพฤติกรรมของนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด หรือมักง่าย ทำให้นักการเมืองเหล่านี้ย่ามใจ ไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชน พยายามทำทุกวิถีทาง หาทางสังกัดพรรคการเมืองที่มีเงินทุนมากๆ ได้เงินไปก็ไปซื้อประชาชน และประชาชนจะต้องยอมรับชะตากรรม เพราะนักการเมืองเหล่านี้ ถือว่าสิทธิ์ความผูกพันมันขาดไปตั้งแต่จ่ายเงิน และลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง

จึงอยากให้ประชาชนคนคนไทยทุกคน ได้ตระหนักในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เลือกนักการเมืองด้วยอุดมการณ์ ด้วยนโยบาย อย่าเลือกโดยอามิสสินจ้าง ถ้าประชาชนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกตั้ง และนักเลือกตั้งไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเสียง ประชาธิปไตยของไทยเรา ก็จะไปไม่รอด จึงฝากอนาคตของประเทศไว้กับคนไทยทุกคน