นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วยนายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. และผู้แทนจากกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที - พีแอล ร่วมแถลงข่าวกรณีเกิดเหตุถนนสามเสน บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ทรุดตัว
นายกาญผจญ กล่าวว่า ระยะเวลาการซ่อมแซมคืนพื้นผิวจราจร ทาง รฟม. และผู้รับเหมาจะเร่งอย่างเร็วที่สุด ไม่ให้เกิน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ รฟม. และบริษัทผู้รับเหมา พร้อมยินดีรับผิดชอบความเสียหายทุกส่วน
สำหรับลำดับเหตุการณ์ เริ่มจากประชาชนรู้สึกว่าผิวถนนไม่เรียบ มีความผิดปกติตั้งแต่เวลา 05.00 น. กระทั่งเวลา 05.30 น. เริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นบนผิวถนน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.สามเสน ต้องมาอำนวยการจราจรและปิดช่องทางจราจรเหลือเพียง 1 เลน
สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตอน 07.00 น. เริ่มมีการทรุดตัวพังทลายของผิวถนนและต่อเนื่องจนถึงประมาณ 07.50 น. พื้นผิวและชั้นดินจมหายเข้าไปในชั้นสถานีรถไฟฟ้า ที่เป็นในส่วนของห้องโถงและชานชาลา ซึ่งมีทั้งดินและน้ำสะสมอยู่ด้านในจำนวนมาก โดยน้ำมาจากท่อประปาที่ลึกลงไป 3 เมตร พบว่าท่อประปาแตก จึงทำให้น้ำไหลไปรวมกับเนื้อดิน ทำให้ดินเปลี่ยนสภาพ อ่อนตัวและทรุดลงในที่สุด ซึ่งโจทย์สำคัญตอนนี้คือการหยุดการไหลของดินและน้ำ ทางทีมวิศวกรของ รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเป็นอันดับแรก
การแก้ไข จึงแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก คือ การคืนพื้นผิวจราจร พบว่าการอุดรูรั่วโดยการใช้กระสอบทราย 50,000 ลูก ถือว่าได้ผล ชะลอการสไลด์ตัวของดินได้ จากนั้นจะทำการเทซีเมนต์ผสม เพื่อบล็อกดินสไลด์อีกชั้นหนึ่ง และทำพื้นผิวถนนชั่วคราว เพื่อให้สามารถสัญจรได้
ส่วนระยะที่ 2 ซ่อมแซมตัวอาคารและสถานที่โดยรอบที่ได้รับความเสียหาย ทาง รฟม. จะดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาแข็งแรง สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ตามปกติ
ทาง รฟม.และผู้รับจ้าง ต้องกราบขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันยินดีรับผิดชอบความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
สำหรับข้อกังวลกรณีที่มีน้ำล้นขึ้นมาบนพื้นผิวถนนสามแสน ช่วงหน้าบริษัท บุญรอดฯ จากการตรวจสอบของผู้ว่าการ รฟม. พบว่า เกิดจากท่อน้ำประปาแตก ทำให้น้ำดันขึ้นมาบนผิวถนน ซึ่งตอนนี้ทางการประปานครหลวงได้ลดแรงดันน้ำแล้วและตรวจสอบ ไม่มีความเสี่ยงในการทรุดตัว นอกจากนี้ทุกโครงการที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ขณะนี้สั่งให้เอกซเรย์ทุกพื้นที่และคอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ด้านนายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. เปิดเผยถึงมาตรการการใช้กระสอบทราย 50,000 ลูก ในการอุดรูรั่วก่อนทำการเทปูนซีเมนต์ เพื่อบล็อกการรั่วไหลและป้องกันดินสไลด์ จากนั้นก็จะเททรายอัดลงไปให้แน่น เพื่อทำถนนชั่วคราวคืนพื้นผิวการจราจรให้กับประชาชน
หลังจากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไข จากแผนงานคร่าวๆ กำหนดกรอบระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
ขณะที่ตัวแทนผู้รับจ้าง ยืนยันจะเร่งดำเนินการแก้ไขและคืนพื้นผิวจราจรภายใน 2 สัปดาห์ ตามที่ผู้ว่าการ รฟม.กำหนดไว้ ซึ่งขั้นตอนแรกจะมีการเทซีเมนต์คอนกรีตในช่วงบ่ายวันนี้ทันที เหนือจากผาอุโมงค์ขึ้นมา 4 เมตร รอจนซีเมนต์เซ็ตตัวแน่นหนา ก่อนจะเทซ้ำจนเต็มหลุม และดำเนินการทำถนนชั่วคราวเพื่อคืนผิวการจราจร