xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ฟันอดีต ผอ.สำนักคุมประพฤติอุทัยธานี ปลอมเอกสาร ทุจริตเงินค่าที่พักผู้เข้าอบรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางภัทริยา เมฆวณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดอุทัยธานี ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุทัยธานี แถลงข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเรื่องที่มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจังหวัดอุทัยธานี ดำเนินการจำนวน 1 เรื่อง ดังนี้

​คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้น เพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหา พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี กับพวก เบียดบังเงินค่าที่พัก สำหรับผู้เข้าอบรมในโครงการอบรมผู้ประสานงานเครือข่ายยุติธรรมชุมชนไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่น

​ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปี พ.ศ.2558 พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ขณะเกิดเหตุ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี ได้ดำเนินจัดทำโครงการอบรมผู้ประสานงานเครือข่ายยุติธรรมชุมชน ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2559 สถานที่จัดการอบรม องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ในการอบรมดังกล่าวได้จัดทำเอกสารแจ้งว่าได้จัดที่พักให้กับผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 50 คน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้ประสานงานหรือวิทยากร อีกจำนวน 5 คน โดยแจ้งว่าได้จัดที่พักนอนดังกล่าวที่อาคารอเนกประสงค์ เอส เอ็ม แอล หมู่ที่ 4 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ตามเอกสารใบสำคัญรับเงิน ในราชการกรมคุมประพฤติ ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2549 และในใบสำคัญรับเงินดังกล่าวมี นายสวอง เพ็ชรโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้ลงชื่อรับเงินค่าที่พักดังกล่าว จำนวน 17,400 บาท เป็นการกระทำจัดทำเอกสารปลอมประกอบการเบิกจ่ายค่าเช่าที่พักของเจ้าหน้าที่และผู้ที่เข้ารับการอบรมและอนุมัติให้เบิกค่าเช่าที่พักดังกล่าวอันเป็นเท็จ เนื่องจากสถานที่พักนั้นไม่มีการเรียกเก็บค่าเช่าและไม่มีผู้เข้ารับการอบรมพักจริง ซึ่งการกระทำดังกล่าวของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้

การกระทำของ พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่น เอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 151 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 98 วรรคสอง

การกระทำของ นายสวอง เพ็ชรโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๒ จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่จะฟังได้ว่า นายสวอง เพ็ชรโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๒ ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

สำหรับความผิดทางวินัย เนื่องจากกรมคุมประพฤติ ได้มีคำสั่งที่ 494/2557 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ให้ไล่พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษไล่ออกดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ซึ่ง ก.พ.ค. ได้พิจารณาแล้วมีมติให้ยกอุทธรณ์ ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จึงถูกไล่ออกจากราชการ ในการกระทำความผิดนี้ เหมาะสมแก่ความผิดแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (2) อีกให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้บังคับบัญชาของ พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ทราบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) ต่อไป