xs
xsm
sm
md
lg

ผ่านวาระ 1 แล้ว! ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ทำงาน 40 ชม./สัปดาห์ - มีสิทธิลาไปดูแลคนที่รัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจพรรคประชาชน โพสต์ระบุว่า วันนี้ (24 ก.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญคือร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน

นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองร่างฯ ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับโดยพรรคประชาชน มีเนื้อหาสาระสำคัญที่จะปรับปรุงสิทธิ สวัสดิการ และความคุ้มครองแรงงานให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปของประเทศในปัจจุบัน ประกอบด้วย

1) ร่างฯ ที่นำเสนอโดย จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8 พรรคประชาชน มุ่งปรับปรุงกำหนดระยะเวลาทำงาน วันหยุดประจำสัปดาห์ สิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี

กำหนดให้เวลาทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (จากเดิม 48 ชั่วโมง) เว้นแต่งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ลูกจ้างต้องมีวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 2 วัน (จากเดิม 1 วัน) ระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน

ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน มีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า 10 วันทำงาน (จากเดิมทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดไม่น้อยกว่า 6 วัน)

2) ร่างฯ ที่นำเสนอโดย วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่มุ่งปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน

กำหนดให้การจ้างงานมีความเท่าเทียมในทุกด้าน นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างเรื่องความพิการ เพศสภาพ ศาสนา ความเชื่อ หรือทัศนคติทางการเมือง

ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาเนื่องจากมีประจำเดือน ไม่เกิน 3 วันต่อเดือน โดยไม่ให้ถือเป็นวันลาป่วยและไม่นับรวมวันหยุดที่มีในระหว่างลา

ลูกจ้างมีสิทธิลาไปดูแลบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด ไม่เกิน 15 วันทำงานต่อปี กรณีที่ลาตั้งแต่ 5 วันทำงานขึ้นไป นายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์หรือใบมรณบัตรของบุคคลที่ลาไปดูแล

การให้นมบุตรในที่ทำงาน กำหนดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อให้ลูกจ้างสามารถให้นมบุตรหรือบีบเก็บน้ำนมในที่ทำงานไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ในช่วง 8 ชั่วโมงของการทำงาน ตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปีหลังคลอด

การผ่านร่างวาระที่ 1 ในวันนี้เป็นความคืบหน้าสำคัญในการปรับปรุงสิทธิ สวัสดิการ และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานในประเทศไทย ที่ไม่มีความเท่าทันต่อโลกที่เปลี่ยนไปและจำกัดสิทธิของผู้ใช้แรงงานอยู่มาก ที่ผ่านมาต้นทุนที่มองไม่เห็นของระบบแบบเดิมคือความอ่อนล้าสะสม อุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ การลาออกและความสิ้นหวังของคนทำงาน นี่คือต้นทุนที่สังคมต้องจ่ายและไม่เคยถูกคิดอยู่ในบัญชีของโรงงานใด

ดังนั้นกฎหมายคุ้มครองแรงงานทั้งสองฉบับจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้แรงงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและความเสี่ยงต่ำลง การจัดเวลาทำงานให้สมดุลจะช่วยลดอุบัติเหตุ ลดการเจ็บป่วยจากความเครียดเรื้อรัง ลดอัตราการลาออก องค์กรไม่ต้องสูญเสียต้นทุนเพื่อฝึกคนใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การไม่เลือกปฏิบัติทำให้ธุรกิจเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของคนทำงาน ไม่ทิ้งความสามารถของใครไว้เพียงเพราะอคติทางสังคม

การลงมติของสภาวันนี้ คือการยืนยันว่าแรงงานไม่ใช่แค่ปัจจัยการผลิต แต่คือประชาชนผู้มีสิทธิที่จะพักผ่อน ดูแลครอบครัว ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ทำให้สิทธิเหล่านี้จับต้องได้มากขึ้น

แม้จะมีกระบวนการที่ยังต้องเข้าไปถกเถียงกันภายในคณะกรรมาธิการวิสามัญและในวาระที่ 2 และ 3 ของสภา แต่การที่ร่างฯ แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ผ่านวาระที่ 1 ได้ด้วยการสนับสนุนของทุกพรรคการเมือง เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าทุกพรรคการเมืองต่างเห็นด้วยในหลักการแล้ว ว่าการปรับปรุงการคุ้มครองสิทธิ สวัสดิการ และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้น

พรรคประชาชนจะมุ่งติดตามและผลักดันการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานต่อไปอย่างไม่ลดละ