วันนี้ (17 ก.ย.) กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา พล.ต.จัน โชะเพียะตรา ผู้บัญชาการกองกำลังทหารประจำจังหวัดพระวิหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (ไอโอที) เข้ามาตรวจสอบพื้นที่บริเวณช่องอานม้า (อนุสาวรีย์ตาอม) อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วเดินทางกลับ โดยแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบล่วงหน้าเพียง 1 ชม. เท่านั้น
ทั้งนี้ ตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้นำกำลังทหารกว่า 50 นาย พร้อมอาวุธปืนพกและอาวุธประจำกายประเภทปืนเล็กยาว เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.การพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธประจำกายประเภทป็นเล็กยาว (ปลย.) เข้ามา อันเป็นการละเมิดข้อ 4 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่กำหนดชัดเจนว่า ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด งดกิจกรรมทางทหารที่ล่วงล้ำเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน
2.การใช้บุคคลที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง พล.จ.ดาโต๊ะ ปาห์ลาวัลย์ อัสรี บิน ชูคอร์ ผู้อำนวยการกองฝึกอบรม กองทัพบกมาเลเชีย เดินทางมาเป็นหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ ไอโอที ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตตทหารอาเซียนประจำกรุงพนมเปญ อันเป็นการละเมิดข้อ 12 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่ระบุให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ไอโอที เป็นไปโดยผู้ช่วยทูตฝ้ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียนที่ประจำการ ณ ประเทศไทยและกัมพูชาเท่านั้น
จากพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานชัดเจนที่สะท้อนถึงการขาดความจริงใจของกองทัพกัมพูชา ในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงฯ ตามที่ได้ร่วมลงนามไว้ ทั้งในกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) การกระทำดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดหลักสันติวิธี แต่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้าง สันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ ตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้นำกำลังทหารกว่า 50 นาย พร้อมอาวุธปืนพกและอาวุธประจำกายประเภทปืนเล็กยาว เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.การพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธประจำกายประเภทป็นเล็กยาว (ปลย.) เข้ามา อันเป็นการละเมิดข้อ 4 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่กำหนดชัดเจนว่า ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด งดกิจกรรมทางทหารที่ล่วงล้ำเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน
2.การใช้บุคคลที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง พล.จ.ดาโต๊ะ ปาห์ลาวัลย์ อัสรี บิน ชูคอร์ ผู้อำนวยการกองฝึกอบรม กองทัพบกมาเลเชีย เดินทางมาเป็นหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ ไอโอที ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตตทหารอาเซียนประจำกรุงพนมเปญ อันเป็นการละเมิดข้อ 12 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่ระบุให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ไอโอที เป็นไปโดยผู้ช่วยทูตฝ้ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียนที่ประจำการ ณ ประเทศไทยและกัมพูชาเท่านั้น
จากพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานชัดเจนที่สะท้อนถึงการขาดความจริงใจของกองทัพกัมพูชา ในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงฯ ตามที่ได้ร่วมลงนามไว้ ทั้งในกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) การกระทำดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดหลักสันติวิธี แต่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้าง สันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา