กรมชลประทาน ประกาศเตือนว่า จากอิทธิพลฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง บริเวณตอนบนด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น แม้จะบริหารจัดการด้วยการทดน้ำและนำน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งเต็มศักยภาพแล้วก็ตาม แต่ยังมีน้ำส่วนเกินที่จำเป็นต้องระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มีมติเห็นชอบให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,000–2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 40–60 เซนติเมตร และจะมีผลกระทบต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใน ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ รวมถึงพื้นที่แม่น้ำน้อย สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ และคลองบางบาล โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำใน อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางปะอิน ซึ่งถูกน้ำท่วมขังอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จะปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย