"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ความคาดหวังต่อพรรคการเมืองไทย ณ วันนี้" กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,232 คน ระหว่างวันที่ 9-12 กันยายน 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนอยากเห็นบทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ณ วันนี้ เป็นอย่างไร
อันดับ 1 ร้อยละ 75.27 ระบุ ทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาจริงและตรวจสอบได้
อันดับ 2 ร้อยละ 64.73 ระบุ ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์ของประเทศ
อันดับ 3 ร้อยละ 57.22 ระบุ บริหารประเทศด้วยความตั้งใจ มีผลงานชัดเจน
2. ประชาชนอยากเห็นบทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ณ วันนี้ เป็นอย่างไร
อันดับ 1 ร้อยละ 68.32 ระบุ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์
อันดับ 2 ร้อยละ 59.95 ระบุ ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนในสภา
อันดับ 3 ร้อยละ 58.73 ระบุ ทุกพรรคทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศ
3. ประชาชนอยากให้พรรคการเมืองไทยปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
อันดับ 1 ร้อยละ 64.29 ระบุ โปร่งใสและซื่อสัตย์
อันดับ 2 ร้อยละ 62.91 ระบุ พูดจริง ทำจริง
อันดับ 3 ร้อยละ 58.45 ระบุ สามัคคีกันทำงานเพื่อประชาชน
4. หากมีการเลือกตั้ง ณ วันนี้ ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใด
อันดับ 1 ร้อยละ 23.94 ระบุ พรรคประชาชน
อันดับ 2 ร้อยละ 21.35 ระบุ ยังไม่ตัดสินใจ
อันดับ 3 ร้อยละ 14.20 ระบุ พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 4 ร้อยละ 11.61 ระบุ พรรคเพื่อไทย
อันดับ 5 ร้อยละ 10.39 และ
ร้อยละ 18.51 ระบุ พรรคอื่นๆ เช่น ไทยรวมพลัง (3.25%) ประชาธิปัตย์ (3.17%) ไทยสร้างไทย 1.79% ประชาธิปไตยใหม่ 1.79% ไทยก้าวหน้า 1.70% ฯลฯ
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า สิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นมาตรฐานจริยธรรมพื้นฐานที่พรรคและนักการเมืองพึงจะมี ทว่ากลับกลายเป็นสิ่งที่ประชาชนยังคาดหวัง ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อพรรคการเมืองในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากมีการเลือกตั้ง ณ วันนี้ พรรคประชาชน ยังนำเป็นอันดับหนึ่ง แต่จำนวนผู้ยังไม่ตัดสินใจก็สูง ทุกพรรคจึงต้องเร่งทำงานสร้างผลงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน
ขณะที่ ผศ.ยอดชาย ชุติกาโม ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสภาวะสุญญากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้น รัฐมนตรีรักษาการกำลังทยอยออกจากทำเนียบฯ ขณะที่ ครม. อนุทิน 1 ยังอยู่ในระหว่างการตรวจคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ทั้งหน้าใหม่และเก่า อย่างละเอียดถี่ถ้วน ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนไทยที่มีต่อพรรคการเมือง ทั้งในฟากฝั่งรัฐบาล (ใหม่) และฝ่ายค้าน โดยเฉพาะบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement : MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาชน ว่าจะไปกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นพรรคการเมืองไทยมีความโปร่งใสและซื่อสัตย์ พรรครัฐบาลมีการทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาได้จริงและตรวจสอบได้มากที่สุด ซึ่งมองว่าเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลที่ผ่านมา การบริหารราชการแผ่นดินยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ขณะที่อยากเห็นพรรคฝ่ายค้านที่จะเกิดขึ้น สามารถตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ค้านไปทุกเรื่อง หรือทำให้สภาล่ม แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือ หากมีการยุบสภาในตอนนี้ ประชาชนยังไม่พร้อมที่จะเลือกตั้ง โดยไม่มีพรรคการเมืองไหนได้คะแนนถึง 25% แม้ว่าพรรคประชาชนจะมีคะแนนนำถึง 23.94% ก็ตาม จึงเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองต้องตระหนักและนำไปปรับปรุงการทำงาน หากหวังจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งที่ (น่า) จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 4 เดือนข้างหน้า