วันนี้ ( 6 ก.ย.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด โดยรวมยังคงปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในทุกรูปแบบ
วานนี้ ศบ.ทก.ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังในที่มั่นของตนเอง และมีการตรวจพบความเคลื่อนไหวจากฝ่ายกัมพูชาใช้ “โดรน” ต่อเนื่อง และมีการใช้กระสอบทราย ท่อนไม้ เพื่อปรับปรุงฐานที่มั่นของกัมพูชาบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยได้จัดกำลังประจำจุดเพื่อติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และพร้อมตอบโต้ตามสถานการณ์ หากมีการรุกล้ำอธิปไตย
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงโต้กัมพูชาที่ออกแถลงการณ์ประท้วงไทย ว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนกัมพูชาในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยประเทศไทยย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นอธิปไตยไทย ให้ใช้เป็นที่พักพิงยามสงคราม และดำเนินการตามกฎหมายไทย รวมถึงปฏิบัติตามหลักสากล
ทั้งนี้ วันที่ 7-10 ก.ย.นี้ จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ณ จ.เกาะกง กัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้า และเป็นไปตามพันธกรณีตกลงไว้ในการประชุม GBC เมื่อ 7 ส.ค. 68 ณ มาเลเซีย ซึ่งกำหนดไว้ว่า ต้องประชุม GBC อีกครั้งภายใน 1 เดือน เพื่อติดตามผลจากการประชุม RBC และร่วมกันแก้ไขปัญหาความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กลับสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว
รัฐบาล ยืนยันแม้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่ยังทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลประชาชน การเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างดีที่สุด