xs
xsm
sm
md
lg

"กัณวีร์"ขอ ภท.พิสูจน์รักษาสัจจะ 5 เรื่อง ส่วนตัวยืนยันเป็นฝ่ายค้าน-ไม่รับตำแหน่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang" ระบุว่า

24 ชม.ก่อนโหวตนายกฯ ขอพรรคภูมิใจไทย พิสูจน์ให้ได้ว่าจะรักษาสัจจะ "ไม่ยุ่งคดีฮั้วส.ว.-เขากระโดง-หมอสุภัทร-แลนด์บริดจ์-ถอนฟ้องคดี112" และ พรรคเพื่อไทยหยุดเล่นเกมการเมือง เห็นใจพรรคประชาชนไว้ใจใครไม่ได้ ขอยึดหลักประชาธิปไตย ส่วนตัวผมยืนยันไปแล้ว ขอเป็นฝ่ายค้าน ไม่รับตำแหน่งใดๆ

ต้องบอกจริงๆ ว่ายิ่งมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวยิ่งเห็นว่าการเมืองไทยมันน่าเบื่อและน่าอึดอัดจนผมไม่อยากใส่ใจ แต่เพราะเป็นนักการเมืองเลยไม่สามารถมองข้ามรายละเอียดมันได้

พูดจริงๆ ถ้าผมเป็นพรรคประชาชนคงเหนื่อยใจ เพราะพรรคที่มีแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 2 คือ เพื่อไทยและภูมิใจไทย ต้องเข้าหาเพื่อเอาเสียง ส.ส.พรรคประชาชนมาโหวตสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ให้ได้

ยิ่งล่าสุดพรรคเพื่อไทย ยืนยันที่จะเสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ เข้าชิงในการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ แล้วประกาศจะยุบสภาทันที หลังชิงยุบสภาไปเมื่อวานแต่ไม่สำเร็จ ยิ่งเห็นกลเกมทางการเมืองชัดเจนขึ้น

แวบนึงในหัวผมมันอดทำให้คิดถึงวันที่ MOU 8 พรรคที่จะร่วมกันตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 66 ถูกฉีกและขว้างทิ้งอย่างไม่ปราณี และพรรคก้าวไกลในสมัยก่อนก็ถูกทุกพรรคหันหลังให้จากเกือบทุกพรรคการเมือง

ผมเป็นคนนึงที่ได้เป็นพยานเชิงประจักษ์ในตอน 8 พรรคร่วม ซึ่งผมเห็นเหตุการณ์ในวันนั้น พูดจริงๆ มันสะอึกครับ และผมในวันนั้นก็ยืนยันชัดเจนต่อสังคม ก่อนที่ผมจะขอมติพรรคเป็นธรรมด้วยซ้ำไปว่า หากการเมืองไทยมันเน่าเฟะและเละเทะขนาดนี้ ผมจะขอยืนยันว่าถ้าการเมืองมันจะเบี้ยวขนาดนี้ ผมจะทำให้มันตรง ว่าเสียงเดียวที่ผมมีอยู่นี้จะยืนข้างก้าวไกลและพร้อมเป็นฝ่ายค้าน และจะค้านให้สุดซอย !!

ผมก็ทำให้ทุกคนเห็นเสมอมาและยังทำอยู่กับสิ่งที่ผมเชื่อ การมีภาพของผมไปโผล่ที่พรรคภูมิใจไทย อาจทำให้หลายคนไม่เข้าใจ และผมก็ได้บอกไปแล้วว่ามันคือทางออกของการเมืองไทย ที่จะต้องใช้การที่ภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และใช้สภาฯ เป็นตัวบังคับทิศทางการเมืองให้เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น คือ การยุบสภาให้เร็ว คืนอำนาจให้ประชาชน เลือกตั้ง สสร.จากประชาชน ทำประชามติเพื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ให้มากที่สุด

ภาพจำของผม จากการฉีก MOU 8 พรรคร่วม มันจึงกลับมาหาผม และจึงเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจเดินหน้าแสดงจุดยืนแบบไม่กั๊กในวิถีที่เหมาะกับสภาพการณ์ทางการเมืองของไทยในปัจจุบัน ผู้รู้ทั้งหลายวิเคราะห์ว่าควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนที่ต้องอยู่ในหน้างานมันต่างกัน วันที่ก้าวไกลถูกลอยแพ คงจำได้ว่าพรรคไหนจับมือกับพรรคไหน พอตอนนี้ทุกพรรควิ่งตรงเข้าหาพรรคประชาชน มันเจ็บที่เป็นผู้เห็นภาพเดิมๆ ซ้ำๆ เข้ามาอีก

จะไว้ใจใครได้มั้ย คงไว้ใจไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการที่ต้องบังคับวิถีสภาฯ ให้ได้เพื่อสิ่งต้องการสูงสุดทางการเมือง ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง 4 เดือน ที่จะต้องรักษาคำพูดยุบสภาเลยครับ แค่ 24 ชม.ก่อนโหวตนายกฯ ทุกคนที่ต้องการเสียงพรรคประชาชนนั้น ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ พรรคประชาชน ควรที่รักษาสัจจะและคำสัตย์ เดินตามระบอบประชาธิปไตย เลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ

ผมไม่ทราบหรอกครับว่า TOA ของพรรคประชาชนจะถูกฉีกหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมทราบคือต้องทำการเมืองแบบตรงไปตรงมากลับมาให้ได้ ถ้าจะให้ดีต้องถอนฟ้องคุณภูมิธรรมฯ ในข้อหา ม.112 และ ม.157 และต้องไม่ใช้นิติสงครามมาชิงความได้เปรียบทางการเมือง เราต้องแสดงความจริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นเจตจำนงที่แน่วแน่

หากพรรคภูมิใจไทยได้นำการจัดตั้งรัฐบาลจริง ต้องแสดงเจตจำนงที่จะให้พิสูจน์ความจริงกรณีคดีฮั้ว สว.และ ที่ดินเขากระโดงอย่างโปร่งใสและรวดเร็วตามกระบวนการยุติธรรม และต้องสัญญาว่าหากคุณได้เป็นรัฐบาลแล้วจะไม่แทรกแซง

รวมทั้งผมอยากได้คำมั่นจากพรรคภูมิใจไทยว่าจะไม่กล้่นแกล้งคดี น.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เปิดทางการตรวจสอบทีโปร่งใสและยุติธรรม รวมทั้ง ไม่เร่งตัดสินใจผลักดันนโยบายที่มีวงเงินมหาศาลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนิคมอุตสาหกรรมจะนะ SEC และแลนด์บริดจ์

ต้องแสดงเจตจำนง ที่จะสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้หลัง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเพื่อไทยไม่จริงใจและทำงานล้มเหลว และต้องเอาจริงกับการปราบปรามอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และงานชายแดนไทยทุกด้าน ที่สำคัญที่สุด ต้องมุ่งเน้นการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ต่อสถานการชายแดนไทย-กัมพูชา ออกแผนงาน roadmap โดยเร็ว

เอาหล่ะพรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกฯ คนที่ 32 ของประเทศไทย ผมเห็นภาพในวันนี้แล้วยังนึกว่าพรรคประชาชนจะลำบากแค่ไหนในการตัดสินใจ แต่ผมตัดสินใจไปแล้วและคงยึดมั่นในคำสัตย์ที่บอกไป ว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ และจะเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคำสัตย์ของรัฐบาลที่จะทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอันสำคัญของไทย