กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากการสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านโจรก ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ หลังเกิดเหตุกระสุนจากอาวุธวิถีโค้งของฝ่ายกัมพูชาตกลงมาในหมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.30 เมตร บริเวณหน้าบ้านที่ได้รับความเสียหาย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำและดินจากบริเวณหลุม เพื่อนำไปตรวจสอบองค์ประกอบของสารระเบิดในห้องปฏิบัติการต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญคือ ลูกเหล็กทรงกลม หรือ Ball Bearing (ลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด/ลูกปราย) จำนวนมากปะปนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า ลูกเหล็กเหล่านี้ถูกบรรจุไว้ในวัตถุระเบิดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอานุภาพการสังหารบุคคลในวงกว้าง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าเศษสะเก็ดระเบิด (Fragment) ที่เกิดจากการแตกตัวของโลหะทั่วไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.30 เมตร บริเวณหน้าบ้านที่ได้รับความเสียหาย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำและดินจากบริเวณหลุม เพื่อนำไปตรวจสอบองค์ประกอบของสารระเบิดในห้องปฏิบัติการต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญคือ ลูกเหล็กทรงกลม หรือ Ball Bearing (ลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด/ลูกปราย) จำนวนมากปะปนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า ลูกเหล็กเหล่านี้ถูกบรรจุไว้ในวัตถุระเบิดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอานุภาพการสังหารบุคคลในวงกว้าง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าเศษสะเก็ดระเบิด (Fragment) ที่เกิดจากการแตกตัวของโลหะทั่วไป