พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี อลงกตการละคร ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่า มีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน อดีตพระอลงกตด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน แต่ที่อดีตพระอลงกตไม่ออกมาโวยวาย เพราะพยายามติดตามทวงถามมาตลอด แต่อีกฝ่ายไม่คืนเงิน อย่างไรก็ตาม “อดีตพระอลงกต” ไม่ได้มีหลักฐานการทวงเงินมาแสดงให้ตำรวจเห็น อ้างเป็นคำพูดเท่านั้น
ส่วนการสอบปากนายสมปอง หรือ อดีตพระสมปอง ที่เข้าให้ปากคำเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยังไม่ได้คุยโดยตรง แต่ได้รับรายงานว่านายสมปอง อ้างว่าไปยืมเงินจากอดีตพระอลงกตช่วงที่เป็นพระ แต่ก็ต้องดูว่าเงินที่ยืมมา มีเจตนายืมจริงหรือไม่ หรือเป็นการช่วยงานอดีตพระอลงกตเพื่อขอเงินไปใช้
อย่างไรก็ตาม หากเงินดังกล่าวเป็นเงินวัด และนายสมปอง ก็เคยเป็นพระ ย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรยุ่งกับเงินวัด ซึ่งตำรวจต้องมองถึงเจตนา ที่มาของเงินที่ยืมไป พยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่มาของเงิน 13 ล้านบาท ที่นำมาให้ยืม กระบวนการคืนเป็นเงินสดและคืนผ่านบุคคลที่ 3 ซึ่งอาจเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย พร้อมยืนยันนายสมปอง ยังอยู่ในข่ายที่จะถูกดำเนินคดี
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่า มีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน อดีตพระอลงกตด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน แต่ที่อดีตพระอลงกตไม่ออกมาโวยวาย เพราะพยายามติดตามทวงถามมาตลอด แต่อีกฝ่ายไม่คืนเงิน อย่างไรก็ตาม “อดีตพระอลงกต” ไม่ได้มีหลักฐานการทวงเงินมาแสดงให้ตำรวจเห็น อ้างเป็นคำพูดเท่านั้น
ส่วนการสอบปากนายสมปอง หรือ อดีตพระสมปอง ที่เข้าให้ปากคำเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยังไม่ได้คุยโดยตรง แต่ได้รับรายงานว่านายสมปอง อ้างว่าไปยืมเงินจากอดีตพระอลงกตช่วงที่เป็นพระ แต่ก็ต้องดูว่าเงินที่ยืมมา มีเจตนายืมจริงหรือไม่ หรือเป็นการช่วยงานอดีตพระอลงกตเพื่อขอเงินไปใช้
อย่างไรก็ตาม หากเงินดังกล่าวเป็นเงินวัด และนายสมปอง ก็เคยเป็นพระ ย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรยุ่งกับเงินวัด ซึ่งตำรวจต้องมองถึงเจตนา ที่มาของเงินที่ยืมไป พยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่มาของเงิน 13 ล้านบาท ที่นำมาให้ยืม กระบวนการคืนเป็นเงินสดและคืนผ่านบุคคลที่ 3 ซึ่งอาจเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย พร้อมยืนยันนายสมปอง ยังอยู่ในข่ายที่จะถูกดำเนินคดี