xs
xsm
sm
md
lg

ศบ.ทก.พร้อมเปิดหลักฐานเขมรวางทุ่นระเบิดฟ้องให้โลกรับรู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ที่ผ่านมา มีพัฒนาการด้านการต่างประเทศหลายเรื่อง สรุปได้เป็นสองประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้

เรื่องแรกเป็นเรื่องของการลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์บุคคลหรือบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ที่จังหวัดศรีสะเกษ นอกเหนือจากคณะผู้สังเกตเหตุการณ์ชั่วคราวแล้ว ก็จะมีกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ลงพื้นที่อีกด้วย ภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ที่ต่างจากครั้งแรกคือ ในครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ที่เป็นเรื่องของระเบิดสังหารบุคคลเป็นการเฉพาะ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นคณะทูตผู้แทนจากรัฐภาคีอนุสัญญาเป็นผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ร่วมคณะลงในครั้งนี้ด้วย ที่จังหวัดศรีสะเกษ

ตลอดช่วงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ คณะทูตองค์การต่างๆ และสื่อมวลชนได้รับฟังข้อมูล และไปเห็นหลักฐานเชิงประจักษ์จากทุ่นนระเบิดและอาวุธอื่นๆ ที่ฝ่ายไทยได้เก็บกู้มาว่าเป็นการลอบวางใหม่โดยฝ่ายกัมพูชาที่มีเจตนาใช้และได้ใช้จริงๆด้วยเรียบร้อยไปแล้ว

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนที่พาไปด้วยในครั้งนี้โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ เป็นสื่อที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แล้วก็เป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับข้อมูลกับตัวระเบิดเองแล้วก็ได้สอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีคำถามตามมาพอสมควร ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศก็ยินดีที่จะประสานขอรับข้อมูลประสานข้อมูลให้สื่อมวลชนต่างประเทศ เพื่อที่จะช่วยให้ได้เผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงไปสู่โลกภายนอกอย่างเป็นระบบอีกทางหนึ่ง

การลงพื้นที่ของคณะผู้แทนจากต่างประเทศครั้งนี้ย้ำชัดว่าไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมีความโปร่งใสแล้วก็ตรวจสอบได้และไม่มีอะไรที่จะปิดบัง และสะท้อนด้วยว่าเป็นฝ่ายกัมพูชาที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและกำลังเล่นละครฉากใหญ่ โดยอ้างเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไร้หลักฐานมาโดยตลอด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่านานาประเทศจะพิจารณาทบทวนความช่วยเหลือที่ให้กับกัมพูชาในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และร่วมกันกดดันให้ประชากัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญารวมทั้งข้อตกลงการหยุดระหว่างไทยกับกัมพูชา

ล่าสุดตามข่าวเรื่องคลิปวิดีโอที่เก็บภาพทหารกัมพูชากำลังวางระเบิดในไทยอยู่ จะมีความพยายามบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา ว่าเป็นนักแสดงไทยที่นำชุดทหารกัมพูชามาสวมใส่และแสดงละคร ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าคลิปวิดีโอที่เก็บภาพเหตุการณ์จริง เป็นเหตุการณ์จริง แล้วจะนำไปประกอบเป็นหลักฐานข้อมูลที่ฝ่ายไทยจะนำไปชี้แจงฟ้องกัมพูชาได้อย่างดีในกรอบของอนุสัญญาว่า ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินเรื่องอยู่ และในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ก็จะมีการประชุมของคณะกรรมการของกรอบอนุสัญญาที่ดูแลเรื่องของการปฏิบัติตามอนุสัญญาครั้งต่อไป ซึ่งท่านเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของไทย ณ นครเจนีวาก็จะเข้าร่วม นำเสนอข้อเท็จจริงข้อมูลหลักฐานทั้งหมดที่ฝ่ายไทยได้เก็บมาเพื่อที่จะเป็นข้อมูลชี้แจงที่มีน้ำหนัก

สำหรับเรื่องที่สอง เป็นเรื่องของความร่วมมือและการดำเนินการของไทยในกรอบคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ในช่วงวันที่ 11-14 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกองทัพบก ได้นำผู้แทนของไอซีซีลงพื้นที่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะผิดจากครั้งก่อนหน้านี้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อติดตามการดูแลทหารกัมพูชาที่อยู่ในการดูแลของฝ่ายไทย แต่จะเป็นเพื่อรับทราบข้อมูลความเสียหาย ผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทยกัมพูชา รวมทั้งการโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี การลงพื้นที่ของไอซีซีในครั้งนี้เป็นอีกตัวอย่างสำคัญอันหนึ่งของความพร้อมที่ฝ่ายไทยมีให้ในเรื่องของความร่วมมือกับองค์กรนี้ แล้วก็องค์กรระหว่างประเทศอื่นๆด้วย ไทยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศหลักสิทธิมนุษยชนตลอดจนหลักปฏิบัติสากลต่างๆ

นอกจากการลงพื้นที่ของไอซีซีแล้ว เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมกับสภากาชาดไทยจัดงานปาฐกถาสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศครั้งที่ 11 ในหัวข้อการธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามร่วมสมัย ในปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติที่มีนางเมรินาที่เป็นประธานมาเข้าร่วม ประเด็นที่น่าสนใจในการแสดงความเห็นในการแสดงปาฐกถาครั้งนี้ ซึ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ก็คือการใช้ข้อมูลข่าวสารอาวุธ ในการทำสงครามซึ่งถือเป็นการเผยแพร่ อาวุธชนิดใหม่ โดยประธานไอซีซีก็ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายธำรงไว้ซึ่งขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ในยามสงคราม และเคารพระเบียบโลก ที่ตั้งอยู่บนหลักนิติธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งช่วงเวลานี้ สำหรับประเทศไทยเป็นการเฉพาะที่กำลังเผชิญกับผลกระทบอย่างร้ายแรง จากการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศโดยฝ่ายกัมพูชา

สุดท้ายทาง ศบ.ทก. ยังคงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านเช่นเคย ให้ระมัดระวังในเรื่องของข่าวปลอมบิดเบือนในขณะนี้ แล้วก็ช่วยกันแชร์ข้อมูลชี้แจงข่าวบิดเบือน ข้อมูลที่ตอบโต้ข่าวบิดเบือนที่ทางการราชการได้ทำไว้ช่วงนี้อาจจะถี่ขึ้น เพื่อที่จะตอบโต้การจัดฉากที่ นำเสนอโดยฝ่ายกัมพูชา ดังเช่นในกรณีที่มีการพูดถึงเมื่อสักครู่ ซึ่งกองทัพบกได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว กระทรวงการต่างประเทศเองก็ได้ออกแถลงการณ์เสริม ชี้แจงถึงความมุ่งมั่นของฝ่ายไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ในพื้นที่ดังกล่าวแต่ฝ่ายกัมพูชากลับบิดเบือนประเด็นนี้ ซึ่งเป็นท่าทีและเจตนาที่ยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น แล้วก็เป็นสิ่งที่สองฝ่ายควรไม่ทำเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เราควรจะช่วยกันแก้ไขปัญหาแล้วก็หาทางออกร่วมกัน เพื่อที่จะสามารถลดระดับความตึงเครียดต่อไป