นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงานหรือถูกเลิกจ้าง ผู้ประกันตนจำเป็นต้องมีเงินชดเชยมาใช้จ่ายในขณะว่างงาน หากผู้ประกันตนไม่รู้ถึงสิทธิประโยชน์แล้วปล่อยผ่านไปโดยไม่ได้ใช้สิทธิจะน่าเสียดายมาก ในกรณีที่ถูกเลิกจ้างโดยที่ไม่ได้มีความผิดอะไร แต่บริษัทอาจจะมีความจำเป็นต้องปรับลดพนักงาน ผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน มากกว่าในกรณีที่ลาออกเอง โดยก่อนหน้านี้กรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วันใน 1 ปีปฏิทิน ส่วนกรณีว่างงานจากการลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลาจะได้รับประโยชน์ทดแทนว่างงานร้อยละ 30 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 90 วันใน 1 ปีปฏิทิน และตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา ประกันสังคมได้ปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง) จากเดิมที่จ่ายร้อยละ 50 เพิ่มเป็นร้อยละ 60 โดยคำนวณจากฐานค่าจ้างจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งรวมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องและมีการจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีว่างงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงานและถูกเลิกจ้าง เมื่อถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนได้สูงสุดไม่เกินเดือนละ 9,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้สูงสุดเดือนละ 7,500 บาท ในระยะ180 วัน (6 เดือน) จะได้รับประโยชน์ทดแทนสูงสุด 54,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้รับสูงสุด 45,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในช่วงที่ว่างงาน หรือรองานใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตในช่วงนี้มีความคล่องตัวขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงขั้นตอนการขอใช้สิทธิประโยชน์ว่างงาน เพื่อรับเงินชดเชยจากประกันสังคม ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สามารถลงทะเบียนว่างงานผ่านเว็บไซต์ https://e-service.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดการจ้างงาน โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว และกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม กรณีว่างงาน (สปส.2-01/7 ) พร้อมแนบไฟล์สำเนาบัญชีธนาคาร และจะต้องรายงานตัวตามนัดหมายเดือนละ 1 ครั้ง จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตั้งแต่วันที่ 8 ของการว่างงานไปจนครบสิทธิที่ควรได้รับ หรือยื่นแบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่)
ทั้งนี้ ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานไม่สามารถขอย้อนหลังได้ ต้องยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน หลังลาออกหรือถูกเลิกจ้างเท่านั้น สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การดูแลผู้ประกันตนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหรือคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ประกันตนคลายวิตกกังวลลงได้บ้างในวันที่ต้องว่างงาน
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งรวมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องและมีการจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีว่างงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงานและถูกเลิกจ้าง เมื่อถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนได้สูงสุดไม่เกินเดือนละ 9,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้สูงสุดเดือนละ 7,500 บาท ในระยะ180 วัน (6 เดือน) จะได้รับประโยชน์ทดแทนสูงสุด 54,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้รับสูงสุด 45,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในช่วงที่ว่างงาน หรือรองานใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตในช่วงนี้มีความคล่องตัวขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงขั้นตอนการขอใช้สิทธิประโยชน์ว่างงาน เพื่อรับเงินชดเชยจากประกันสังคม ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สามารถลงทะเบียนว่างงานผ่านเว็บไซต์ https://e-service.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดการจ้างงาน โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว และกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม กรณีว่างงาน (สปส.2-01/7 ) พร้อมแนบไฟล์สำเนาบัญชีธนาคาร และจะต้องรายงานตัวตามนัดหมายเดือนละ 1 ครั้ง จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตั้งแต่วันที่ 8 ของการว่างงานไปจนครบสิทธิที่ควรได้รับ หรือยื่นแบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่)
ทั้งนี้ ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานไม่สามารถขอย้อนหลังได้ ต้องยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน หลังลาออกหรือถูกเลิกจ้างเท่านั้น สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การดูแลผู้ประกันตนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหรือคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ประกันตนคลายวิตกกังวลลงได้บ้างในวันที่ต้องว่างงาน