xs
xsm
sm
md
lg

ทภ.2 สรุปเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้กองกำลัง 2 ฝ่ายยังคงวางกำลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ระบุว่า บันทึกเหตุการณ์พิพาทบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 17 สิงหาคม 2568

ตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ดังนี้:

ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ยังคงเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา

โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยกรณีกำลังพลไทย 5 นายประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดชายแดน ว่าผลการตรวจพิสูจน์โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ยืนยันเป็น ทุ่นสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ใหม่ทั้งหมด ถูกวางพร้อมใช้งาน มีการถอดอุปกรณ์นิรภัยและพรางไว้อย่างแนบเนียน ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง

นอกจากนี้ ในพื้นที่ภูมะเขือยังตรวจพบทุ่น PMN-2 ทั้งที่ยังไม่ถูกใช้งานและที่ถูกวางพร้อมใช้งานแล้ว ซึ่งถือเป็นหลักฐานว่ากัมพูชายังคงครอบครองและลักลอบนำมาใช้จริง อันเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยตรง ทั้งนี้ รายงานอนุสัญญาออตตาวาเมื่อ 31 ธ.ค. 67 ระบุชัดว่ากัมพูชายังคงมีทุ่นสังหารบุคคลกว่า 3,700 ลูก โดยอ้างว่าเพื่อการฝึก การนำมาวางในเขตอธิปไตยไทยจึงเป็นการละเมิดร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศ

กองทัพบกโต้กลับกัมพูชา เพิกเฉยพันธกรณีทุ่นระเบิด ละเมิดหยุดยิง-กระทบภาพลักษณ์โลก

โฆษกกองทัพบก ตอบโต้กรณี พล.ท.(หญิง) มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดต้องขึ้นกับข้อตกลงหยุดยิงสมบูรณ์ โดยย้ำว่าท่าทีดังกล่าวเท่ากับยอมรับว่า กัมพูชายังคงใช้ทุ่นระเบิดคุกคามฝ่ายไทยจริง ซึ่งสวนทางกับข้อเท็จจริง เพราะหากยังใช้ทุ่นระเบิด ข้อตกลงหยุดยิงก็ไม่อาจสมบูรณ์ได้

กองทัพบกชี้ การเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ขัดแย้งกับบทบาทที่กัมพูชาแสดงบนเวทีนานาชาติ ทั้งที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศเพื่อจัดการปัญหาทุ่นระเบิด แต่กลับใช้ทุ่นระเบิดคุกคามฝ่ายไทย ซ้ำยังทำลายภาพลักษณ์กัมพูชาต่อสายตาประชาคมโลกอย่างชัดเจน

โฆษก ทบ.โต้ ผอ.CMAC บิดเบือนข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด PMN-2

โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณี นายเฮง รัตนา ผอ. CMAC อ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ไทยนำมาแสดงยังไม่ถูกดึงสลักนิรภัย จึงไม่สามารถใช้งานได้ โดยระบุว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลบางส่วนเพื่อสร้างความสับสน
โดยย้ำว่า ทุ่นดังกล่าวตรวจพบเมื่อ 4 ส.ค. 68 ที่ภูมะเขือ ซึ่งมีทั้ง ทุ่นที่ยังไม่ได้ติดตั้ง (มีสลักนิรภัย) และ ทุ่นที่ถูกติดตั้งแล้ว (ไม่มีสลัก) โดยทั้งสองลักษณะถูกนำมาแสดงต่อผู้แทนต่างประเทศครบถ้วน(เมื่อ 16 ส.ค.68) มิใช่ตามที่กัมพูชาเลือกนำเสนอเพียงบางภาพเพื่อบิดเบือนความจริง

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ยอดสะสมถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2568)
1. พลเรือน
• เสียชีวิตทางตรง: 14 ราย
• บาดเจ็บ: 39 ราย
รวมทั้งสิ้น: 53 ราย

2. ทหาร
• เสียชีวิต: 17 นาย
• บาดเจ็บ: 269 นาย
รวมทั้งสิ้น: 286นาย

ทบ. ส่งทีม M-MCATT ดูแลสุขภาพกาย–ใจ กำลังพลแนวชายแดน เพื่อความพร้อมรักษาอธิปไตยของชาติไทย

จากการสั่งการของ ผบ.ทบ. มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบกและ รพ.ทหาร ส่งทีมทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (M-MCATT) ลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ตรวจสุขภาพและประเมินสภาพจิตใจของกำลังพลหลังการสู้รบ เพื่อคลายความกังวลและป้องกันผลกระทบทางจิตใจ
การดูแลครอบคลุมทั้ง ก่อนลงพื้นที่ (Pre-deployment) การตรวจคัดกรองและเตรียมความพร้อม, ระหว่างปฏิบัติภารกิจ (Deployment) การจัดตั้งหน่วยพยาบาลสนาม–ดูแลสุขภาพจิต–ส่งกลับผู้บาดเจ็บ และ หลังปฏิบัติการ (Post-deployment) การฟื้นฟูสุขภาพกาย–ใจต่อเนื่อง รวมถึงการช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล
ผลประเมินแบ่งกำลังพลเป็น 3 กลุ่มเสี่ยง หากพบกลุ่มแดงจะส่งเข้ารับการรักษาทันที สะท้อนถึงความสำคัญที่กองทัพบกมีต่อขวัญและกำลังใจของผู้เสียสละแนวหน้า เพื่อให้มีความพร้อมปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยชาติให้ดีที่สุดต่อไป