วันนี้ (17 ส.ค.) เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ร่วมทวงคืนความเป็นธรรมให้กับ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากขบวนการฉ้อฉล ที่งานอะโบ๊ยหมะ ครั้งที่ 11 หาดสวนกง อ.จะนะ จ.สงขลา ระบุว่า ความพยายามของข้าราชการระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ผู้สยบยอมต่ออำนาจการเมืองและกลุ่มทุนบางกลุ่มกำลังบรรลุเป้าหมาย ที่ต้องการกำจัดเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงพวกเขาให้สิ้นซากไปจากระบบราชการ ทั้งหวังที่จะตัดไม้ข่มนามบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขคนใดก็ตามแต่ที่ไม่โค้งคำนับต่อผู้มีอำนาจโดยสดุดี
เป็นที่รับรู้กันแล้วว่า ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขต้องการให้ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ถูกลงโทษจากความกระด้างกระเดื่องให้ถึงที่สุด โดยอาศัยช่องว่างของระเบียบกฎหมายเป็นเครื่องมือตรวจสอบทางวินัย นพ.สุภัทร และทีมชมรมแพทย์ชนบท กรณีการระดมสรรพกำลังแพทย์จากทุกภูมิภาคเข้าช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2564 จากภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งรู้กันดีว่ารัฐบาลในขณะนั้นแบกรับสถานการณ์ดังกล่าวแทบไม่ไหว
เป็นที่ประจักษ์กันดีว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เป็นข้าราชการทางการแพทย์ที่มีความใส่ใจกับปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกมิติ ที่ไม่ใช่แค่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม การละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน และความไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่หมอท่านนี้จะไม่ทนนิ่งเฉยหากได้พบเห็น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนบางกลุ่มต้องสูญเสียผลประโยชน์และยังให้เกิดความไม่พอใจต่อบทบาทของ นพ. สุภัทร ในหลายครั้ง จนเป็นเหตุปัจจัยให้มีการร่วมมือกันอย่างเป็นขบวนการของคนเหล่านั้น เพื่อกำจัดหมอคนนี้ให้สิ้นซากไปจากระบบทางราชการ อย่างที่พยายามย้ายหมอจากโรงพยายาลยจะนะไปยังโรงพยาบาลสะบ้าย้อยมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งคงไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา
ในนามเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคใต้ ขอประณามขบวนการอันฉ้อฉลที่พยายามทุกวิถีทางให้ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ สิ้นสภาพความเป็นข้าราชการให้จงได้ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โปรดคืนความเป็นธรรมของกับคุณหมอ ดังนี้
กระทรวงสาธารณสุขต้องเปิดเผยรายงานผลการสอบวินัยของ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ต่อสาธารณะ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องแสดงให้เห็นว่าท่านวางตัวเป็นกลาง ด้วยการย้ายปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบันให้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน เพื่อไม่ให้ยุ่งเหยิงและรวบรัดกับผลการตรวจสอบ เพราะเป็นที่ทราบกันว่าปลัดฯ ท่านนี้จะเกษียรอายุราชการในเดือนกันยายน 2568 และต้องการเร่งรีบให้เรื่องนี้จบลงในขณะที่ยังมีอำนาจ ด้วยเห็นว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่นั้นตั้งอยู่บนฐานอคติต่อ นพ.สุภัทร อย่างโจ่งแจ้ง
ขอเรียกร้องไปยังภาคีเครือข่าย องค์กรภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาควิชาการ และอื่น ๆ ทั่วประเทศ ได้โต้กลับความอยุติธรรมดังกล่าว ด้วยการออกมาสนันสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าวไปพร้อมกัน มิใช่เพียงเพื่อช่วยเหลือ นพ.สุภัทร เท่านั้น แต่หมายถึงการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับข้าราชการน้ำดีอีกจำนวนมากของประเทศนี้ ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของระบบอันฉ้อฉล